ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาได้มีข่าวการปิดตัวของนิตยสารมากมาย ร้านหนังสือปิดตัวมากขึ้น ร้านหนังสือเริ่มมีน้อยลงจึงก่อให้เกิดความกลัวว่าต่อไปในอนาคต ร้านหนังสือจะยังมีอยู่ต่อไปหรือไม่ ผลกระทบมาจากการที่ผู้คนเน้นอ่านสิ่งต่างๆ อ่าน Content ผ่านมือถือ ผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้นจริงหรือ มาอ่านกันว่า อนาคตของร้านหนังสือจะเป็นอย่างไรกัน
ร้านหนังสือยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าจะมีการปิดตัวของนิตยสาร หรือการปิดตัวของร้านหนังสือเล็กๆ ปลีกย่อยมากมาย คงทำให้คิดว่า ร้านหนังสือคงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเจ๊งหรือไม่สามารถเติบโตได้แน่ๆ ความคิดนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะร้านหนังสือก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องมา ยกตัวอย่างกำไรของการเติบโตของร้านหนังสือ B2S ที่ขายผลิตภัณฑ์เครื่องเขียน ควบคู่กับหนังสือ รวมถึงสื่อบันเทิงอื่นๆ มีกำไรดังนี้
- ปี 2557 รายได้ 3,837 ล้านบาท กำไร 201 ล้านบาท
- ปี 2558 รายได้ 3,990 ล้านบาท กำไร 223 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 4,166 ล้านบาท กำไร 250 ล้านบาท
นอกจากนี้ร้านหนังสืออย่าง Asiabook ก็มีกำไรมากขึ้นเช่นเดียวกันในช่วงระยะเวลา 3 ปี
- ปี 2557 รายได้ 925 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
- ปี 2558 รายได้ 872 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 877 ล้านบาท กำไร 36 ล้านบาท
จากตัวเลขกำไรเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่า ร้านหนังสือยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มันไม่ใช่ธุรกิจที่จะหายไปอย่างแน่นอน กลับกันยิ่งในยุคนี้ ที่ร้านหนังสือมีการปิดตัวลงไปมาก ยิ่งผลักดันให้ต้องมีการพัฒนาธุรกิจการขายหนังสือให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น คุ้มค่ายิ่งขึ้น ในช่วงแรกเริ่มนั้นจะลำบากเสียหน่อย แต่ถ้าหากคุณเปิดธุรกิจร้านหนังสือแล้วสามารถยืนหยัด ผ่านช่วงเวลาปีหรือสองปีแรกไปได้ ในช่วงปีที่สามคุณก็จะเริ่มได้กำไรที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน อนาคตของร้านหนังสือยังไม่ถึงช่วงจุดสิ้นสุด มันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวให้กับสิ่งใหม่ๆ เท่านั้นเอง
คนไทยรักการอ่านมากขึ้น หนังสือดียังไม่หายไป
ถึงแม้ว่าการมาถึงของเทคโนโลยี การมาถึงของเหล่าโซเชียลมีเดียจะทำให้คนไทยอ่านหนังสืออย่าง นิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสารต่างๆ น้อยลง แต่กระนั้นมันก็ทำให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น มีคนไทยใช้เวลาอยู่ใน Facebook เป็นจำนวนหลายชั่วโมงต่อวันในการอ่านข่าวสาร อ่าน Content คนไทยรักการอ่านมากขึ้นในสิ่งที่พวกเขาสนใจ นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการจะอ่านได้ง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย ทำให้คนไทยส่วนมากมีนิสัยที่รักการอ่าน Content มากขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับหนังสือ เนื่องจากคนไทยมีการรักการอ่านกันมากขึ้น หนังสือดีนั้นจะยังไม่มีวันหายไปอย่างแน่นอน แถมกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าที่จะซื้อหนังสือจะไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ช่วงวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้นแล้ว เพราะทุกวันนี้ตั้งแต่ประถม เด็กมัธยมต้น ไปจนถึง ผู้สูงอายุ ต่างก็หลงใหลในการอ่านมากขึ้น ทำให้การผลิตหนังสือดีๆ ที่มีคุณภาพนั้นก็ยังสามารถขายได้อยู่
ยกตัวอย่างหนังสือ Future : ปัญญาอนาคต ของคุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมมา ที่ถึงแม้ว่าจะผลิตออกมาตั้งแต่ราว 2 ปีก่อนแล้ว นั้นแต่ก็ยังสามารถขายดีได้มาจนถึงทุกวันนี้ มีการพิมพ์มากกว่า 22 ครั้ง หรือหนังสือหมวดหมู่ต่างๆที่ได้มีการปรับโฉม พัฒนา ตีพิมพ์ใหม่อยู่เรื่อยๆ หนังสือดีๆ จะยังไม่หายไปอย่างแน่นอนในร้านหนังสือ เพราะว่า หนังสือก็จะยังมีบทบาท มีความสำคัญต่อมนุษย์เราอยู่ สำคัญต่อวิถีชีวิต ทั้งหนังสือและร้านหนังสืออาจจะต้องปรับตัวกันหน่อย แต่ว่ามันยังไม่ถึงจุดจบของหนังสือและร้านหนังสืออย่างแน่นอน
อนาคตของร้านหนังสือในไทยยังพอมีหนทางไปต่อ เพียงแค่ว่าต้องมีการปรับตัวและยืนหยัดต่อสู้กับความยากลำบากในการตั้งตัวในช่วงปีสองปีแรกหน่อย แต่การทำธุรกิจร้านหนังสือก็ยังมีหนทางที่จะเติบโตและสร้างกำไรได้ในระยะยาว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หนังสือและมนุษย์ ก็จะยังมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่เสมอ