เป็นข่าวที่น่าเศร้าใจต่อทั้งชาวโลกต่อการจากไป สตีเฟน ฮอคิง (Stephen Hawking) ในวัย 76 ปีผู้ประพันธ์หนังสือ A Brief History of Time นักฟิสิกส์วิทยา นักจักรวาลวิทยาและศาสตรจารย์ประจำมหาวิทยาแคมบริดจ์ ผู้ที่มีผลงานวิชาการ หนังสือวิทยาศาสตร์ที่เขียนถึงกับ ทฤษฏีสำคัญอย่าง ทฤษฎีบทเกี่ยวกับภาวะเอกฐานเชิงความโน้มถ่วงในกรอบของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ร่วมกับโรเจอร์ เพนโรส และการทำนายเชิงทฤษฎีที่ว่าหลุมดำควรปล่อยรังสี ซึ่งปัจจุบันมีชื่อว่า รังสีฮอว์คิง และนอกจากนั้นเขายังมีบทเรียนชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจให้เราจดจำเขาอีกด้วย มาอ่าน 3 บทเรียนชีวิตแรงบันดาลใจ จาก สตีเฟน ฮอคิง กันเถอะ
1.ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง
“ One of the basic rules of the universe is that nothing is perfect , perfection simply doesn’t exist. Without imperfection neither you nor I would exist.”
“ กฎพื้นฐานของจักรวาลนั้นก็คือ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ,ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริงและถ้าปราศจากความไม่สมบูรณ์แบบไม่ว่าผมหรือคุณก็จะไม่มีตัวตน.”
ในชีวิตนี่ ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง ไม่มีที่ไม่เคยทำผิดพลาด ไม่มีใครที่ทำได้สมบูรณ์แบบตลอดเวลา และถ้าหากคุณทำผิดพลาดบ้างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร มันคือเรื่องปกติ เพราะถ้าปราศจากความไม่สมบูรณ์แบบ พวกเราทุกคนคงไม่ได้มีตัวตนอยู่บนโลกในทุกวันนี้
2.ไม่ว่าชีวิตจะยากแค่ไหนก็อย่ายอมแพ้
“ However difficult life may seem there is always something you can do and succeed at. It matters that you don’t just give up.”
“ไม่ว่าชีวิตจะยากขนาดไหนมันก็มีสิ่งที่คุณสามารถทำและประสบความสำเร็จจากมันได้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ยอมแพ้.”
สตีเฟน ฮอคิง เขาไม่ได้มีชีวิตที่ทุกอย่างมันง่ายและสวยงาม เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่เขาก็สามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ สิ่งที่เขาต้องการจะถ่ายทอดความรู้ทางด้านฟิสิกส์ การวางทฤษฎีอันสำคัญต่อแวดวงการศึกษาจักรวาลวิทยาไว้ โดยเฉพาะเมื่อเขาถูกวินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอเอส ที่กล้ามเนื้อร่างกายจะเริ่มค่อยๆอ่อนแรงอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกระทั่งเริ่มพูดไม่ชัด เขาตกสู่สภาวะซึมเศร้า ต่อถึงกระนั้นเขาก็ยังทำการศึกษางานวิจัยของเขาต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งงานของเขาได้ประสบความสำเร็จ ถ้าหากจะเป็นใครที่จะแสดงให้เห็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบากในการใช้ชีวิต สตีเฟน ฮอคิง นี่แหละคือบุคคลตัวอย่างนั้นที่น่านับถืออย่างยิ่ง
3.คำแนะนำที่เขามอบให้แก่ลูกๆ
“One, remember to look up at the stars and not down at your feet. Two, never give up work. Work gives you meaning and purpose and life is empty without it. Three, if you are lucky enough to find love, remember it is there and don’t throw it away.”
“ อย่างแรก จำไว้เสมอว่าให้มองสูงอยู่เสมอจดจ้องดวงดาวไม่ใช่มองต่ำที่เท้าของตัวเอง สอง อย่ายอมแพ้ต่อการทำงาน การทำงานทำให้ชีวิตมีความหมายและทำให้ชีวิตมีเป้าประสงค์ถ้าปราศจากมันชีวิตจะว่างเปล่า และสาม ถ้าหากโชคดีมากพอที่จะพบเจอรัก จดจำไว้เสมอว่ารักอยู่ที่นั่นและอย่าโยนมันทิ้ง.”
อย่างแรกคือการให้ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย มองไปข้างหน้า ฝันให้ไกล มองดวงดาวบนฝากฟ้าดีกว่ามานั่งจมปลักอยู่กับการนั่งมองเท้าตัวเอง สองคือการทำงานนั้นทำให้ชีวิตมีความหมาย ตั้งใจทำงาน อย่าละทิ้งการทำงานเพราะถ้าไม่มีมันชีวิตจะว่างเปล่าและอย่างที่สาม ถ้าหากมีโอกาสโชคดีมากพอที่จะพบรัก อย่ารักทิ้งๆขว้างๆ รักษามันไว้ให้ได้ เพราะนั้นคือความโชคดีอย่างมาก รู้จักซาบซึ้งในความรักที่มีอยู่
การจากไป สตีเฟน ฮอคิง ถือว่าเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ของโลก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้ทอดทิ้งความรู้ สิ่งที่มีคุณค่าไว้กับโลกของเรามากมาย ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ นักฟิสิกส์ นักจักรวาลวิทยาที่สร้างทฤษฎีอันยอดเยี่ยมไว้ ถึงเขาจะจากไปแล้วแต่ชื่อของเขาจะถูกจดจำไปอีกนานแสนนานอย่างแน่นอน