พลังแห่งคอนเทนต์ และเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือ ราชา

“คอนเทนต์ คือ ราชา.” คือหัวข้อของเรียงความที่ บิล เกตส์ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Microsoft ค.ศ.1996 และประโยคที่สนับสนุนเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือราชาในยุคแห่งอินเทอร์เน็ตนั้นก็คือ

“คอนเทนต์คือที่ที่ผมคาดหวังว่ามันจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับการกระจายข่าวสารข้อมูล.” ในตอนนั้นมีเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และผู้ที่รู้จักใช้ผลประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์ก็ต่างสำเร็จผลอันยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ อย่าง แจ็ค หม่า เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์และเริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเล็กๆที่เป็นฐานก้าวไกลไปสู่เว็บค้าปลีกแห่งเอเชียได้

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจและแบรนด์ดังมากมายที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยแต่ก็สามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะรู้จักพลังแห่งคอนเทนต์  บิล เกตส์ได้ทำนายอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตล่วงหน้าไว้ถึง 20 ปีแล้วและสิ่งที่เขาทำนายไว้นั้นก็ถูกต้อง ยิ่งในทุกวันนี้ เป็นยุคที่ คอนเทนต์ คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์และธุรกิจ มันสามารถช่วยให้แบรนด์ก้าวไกลเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลได้ มันสามารถช่วยธุรกิจให้สามารถสร้างยอดขายมากกว่าเดิมได้ ถ้าหากคุณยังไม่เชื่อว่า คอนเทนต์นั้นมีพลังมากขนาดไหน มาอ่านเหตุผลที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพลังของคอนเทนต์มากขึ้นและรู้ว่าทำไมกันถึงต้อง ขนานนามมันว่า คอนเทนต์ คือ ราชา แห่งโลกออนไลน์

• คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ
• คอนเทนต์ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆให้กับธุรกิจได้
• คอนเทนต์ที่ดีช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม
• คอนเทนต์ดีต่อ SEO
• คอนเทนต์คุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณมาก

คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ

พลังสำคัญของคอนเทนต์นั้นก็คือมันสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจได้มากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์สู่โลกออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการของแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ในอนาคตเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นมากขึ้น พวกเขาจะสามารถเข้าใจว่า แบรนด์นั้นต้องการสื่อถึงอะไร ขายอะไรบ้างและทำให้พวกเขารู้จักแบรนด์มากขึ้น

ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างแบรนด์หนึ่งที่มีคอนเทนต์ให้อ่านเกี่ยวกับสินค้าและบริการ มีคอนเทนต์อัปเดตใหม่ๆอยู่เสมอและอีกแบรนด์ที่ไม่มีคอนเทนต์ที่อัปเดต ไม่มีคอนเทนต์มากมายให้อ่านมากนัก ถ้าคุณเป็นลูกค้า คุณจะเลือกสิ่งใด ระหว่างสิ่งที่คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้และสิ่งที่คุณไม่สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

ในทุกวันนี้ ผู้บริโภคต่างมีทางเลือกที่จะเสพคอนเทนต์และพิจารณาว่าแบรนด์หรือสินค้าใดที่น่าเชื่อถือและดึงดูดต่อตัวพวกเขามากกว่ากัน พวกเขาสามารถนำชื่อสินค้าหรือแบรนด์ไปค้นหาใน Google หรือใน Pantip เพื่ออ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจได้หรือพวกเขาก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์นั้นได้ในเว็บไซต์ แฟนเพจของแบรนด์ได้ หลังจากนั้นจึงเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบว่าแบรนด์ใดที่ดึงดูดต่อพวกเขามากกว่ากัน ซึ่งต่างจากยุคเดิมที่ทางเลือกในการรับชมรับฟังและอ่านคอนเทนต์นั้นยังมีน้อย

ท้ายที่สุดแบรนด์ที่มีคอนเทนต์ที่ดีนั้นย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าแบรนด์ที่ไม่ใส่ใจในการสร้างคอนเทนต์อยู่เสมอ แบรนด์ที่มีคอนเทนต์ที่ดีย่อมสามารถเติบโต สร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จได้มากกว่า

คอนเทนต์ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆให้กับธุรกิจได้

“Content is where I expect much of the real money will be made on the Internet, just as it was in broadcasting.”

“ คอนเทนต์คือที่ที่ผมคาดหวังว่ามันจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับการกระจายข่าวสารข้อมูล.”

คอนเทนต์คือ ช่องทางโฆษณารูปแบบใหม่ของโลกทุกวันนี้ แตกต่างจากสมัยก่อนที่โฆษณามันเป็นการสื่อสารเพียงทางเดียวคือมีรูปแบบการเผยแพร่ทางเดียวต่อคนหลายๆคน แต่คอนเทนต์คือการโฆษณาแบบมีการสื่อสารโต้ตอบทั้งสองทาง มันเป็นเหมือนช่องทางสื่อสารกันระหว่างผู้บริโภคและแบรนด์นั้นเอง

เมื่อมีช่องทางสื่อสารแล้ว การสร้างคอนเทนต์ให้เข้ากับแบรนด์ก็สามารถทำได้ตรงจุดมากขึ้น สามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

การสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ย่อมสามารถช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มโอกาสที่จะได้ยอดขายใหม่ๆ ลูกค้าหน้าใหม่ผ่านการเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ได้อีกด้วย

คอนเทนต์ที่ดีช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม

คอนเทนต์ เป็นเหมือนช่องทางการสื่อสารระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคนั้นจึงทำให้คอนเทนต์นั้นมีพลังที่สามารถส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้มากขึ้นกว่า โฆษณารูปแบบเดิมอย่างยิ่ง เมื่อผู้บริโภครู้จักแบรนด์เป็นอย่างดีผ่านคอนเทนต์และพวกเขาก็ยินดีที่จะมีส่วนร่วมในโปรโมชั่น กิจกรรมหรือประชาสัมพันธ์ที่แบรนด์จัดขึ้นมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

คอนเทนต์ที่ดีจะสามารถช่วยให้ผู้บริโภคและแบรนด์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

คอนเทนต์ดีต่อ SEO

SEO (Search Engine Optimization) นั้นถ้าให้ยกตัวอย่างก็คือ Google หรือ Yahoo ที่ทุกคนจะใช้เพื่อหาข้อมูลต่างๆบนโลกอินเทอร์เน็ตและเหล่าเว็บไซต์ที่ปรากฏขึ้นในหน้าแรกจากการค้นหานั้นก็คือ เว็บไซต์ที่ตรงกับผลลัพธ์การค้นหามากที่สุด นั้นหมายความว่า เว็บไซต์เหล่านั้นมีคอนเทนต์ที่ตรงกับสิ่งที่ผู้คนทำการค้นหาผ่าน Google มากที่สุดนั้นเอง ถ้าอยากให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นหน้าแรกของ SEO คุณก็ต้องมีคอนเทนต์ที่เป็นมิตรต่อ SEO ในส่วนรายละเอียดของ SEO ในบทความนี้จะไม่ลงรายละเอียดในเรื่องนั้น แต่ใจความสำคัญมีอยู่ว่า

ถ้ามีคอนเทนต์ที่ดีและถูกหลักการทำ SEO มันก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าค้นหาหน้าแรกของ Google ได้และเมื่อมันปรากฏในหน้าค้นหาแรกมันก็จะช่วยให้มีคนสนใจเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

คอนเทนต์คุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณมาก

คอนเทนต์ นั้นไม่ใช่เพียงแค่โฆษณาหรือทำเพื่อขายของ ขายแบรนด์อย่างเดียวเท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพนั้นต้องมีประโยชน์และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้บริโภค แม้บางครั้งมันอาจจะไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขายโดยตรงแต่คอนเทนต์คุณภาพนั้นก็จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ได้และสำคัญอย่างยิ่งแก่ผู้บริโภค

หนึ่งสิ่งที่ควรจดจำนั้นก็คือ การสร้างคอนเทนต์ปริมาณมากนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ทุกวันนี้มีคอนเทนต์มากมายในโลกออนไลน์ ถ้าไม่ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพมันก็จะไม่มีประโยชน์แก่ผู้บริโภค แถมยังอาจจะไม่ได้ช่วยให้แบรนด์มีคุณค่าขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้น คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณ มากเสมอ

ถ้าหากมีคอนเทนต์ที่ดีก็ย่อมจะสามารถช่วยส่งผลให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ ตั้งแต่คุณค่าของแบรนด์ไปจนถึงการกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นและยังเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย แต่คอนเทนต์นั้นวัดกันที่คุณภาพมิใช่ปริมาณ ในโลกที่โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางการสื่อสารที่สำคัญ นี่คือยุคที่คอนเทนต์นั้นยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์และธุรกิจทุกประเภท ด้วยความสำคัญและประโยชน์ที่คอนเทนต์สามารถสร้างครอบจักรวาล มันจึงถูกขนานว่า คอนเทนต์ คือ ราชา