6 ความกลัวที่ต้องก้าวข้าม ถ้าไม่อยากพลาดอะไรไปในชีวิต

“หากผมให้คุณนั่งคิดสัก สองนาที และจดลงบนกระดาษ ถึงสิ่งที่คุณอยากทำ แต่ไม่กล้าพอที่จะทำ คุณคิดว่าคุณจะจดได้สักกี่อย่าง และนั่น คือสิ่งที่คุณกำลังพลาดไปในชีวิต”

คนเราพลาดอะไรมากมายในชีวิต เพราะความกลัวไม่ใช่ว่าความกลัวนั้นไม่ดีต่อเรานะครับ มันช่วยให้เราระมัดระวัง และอาจช่วยชีวิตเราได้ในหลายกรณี แต่ความกลัวนี่หละเป็นตัวหลักที่ทำให้เราคุ้นชินกับจุดสบาย ซึ่งไม่ค่อยดีนักต่อพัฒนาการของเรา

เมื่อวานนี้ ผมได้ฟัง Ted Talk โดย Michelle Poler พูดถึง ความกลัวไว้อย่างน่าสนใจ ว่าเราสามารถแบ่งความกลัวได้เป็น 6 อย่าง ซึ่งหากเข้าใจเราสามารถก้าวข้ามความกลัวได้ไม่ยากนัก

1. “Pain” ความเจ็บปวด เรามักจินตนาการ ความเจ็บปวดที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำสิ่งต่างๆ ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริงเสมอ ซึ่งมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็เป็นได้

2. “Danger” อันตราย กี่ครั้งที่คุณได้ยินเพื่อนพูดว่า ไม่เอาหรอกมันอันตราย ลองคิดดูดี ๆ ว่าเวลาคุณคิดแบบนี้มันเป็นเพราะคุณคิดว่ามัน อันตราย หรือ เพียงไม่กล้า

3. “Embarrassment” ความอับอาย คนเรามักจะวิพากร์วิจารณ์ผู้อื่นเวลาทำผิด แต่บ่อยครั้งลืมมองตนเอง หากเรามัวแต่สนใจความคิดเห็นของผู้อื่น สุดท้ายเราคงไม่ได้ทำอะไรเลย

4. “Rejection” การถูกปฏิเสธ หลายๆ คนมอง ความล้มเหลว หรือ การถูกปฏิเสธ เป็นเรื่องที่แย่หรือควรหลีกเลี่ยง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ดี และสามารถทำให้เรานั้นแข็งแกร่งขึ้นได้

5. “Loneliness” ความเหงา อาการที่ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้นั้น มักเกิดกับกลุ่มคนที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีความมั่นใจต่ำ การที่ต้องอยู่กับคนอื่นเสมอ ทำให้คนๆนั้นต้องปรับตัวเองให้เข้ากับคนอื่นตลอดเวลา ไม่มีตัวตนที่ชัดเจน ซึ่งเป็นผลเสียต่อตนเองในระยะยาว

6. “Control” การควบคุม ในหลายๆ ครั้ง ที่คุณไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ หรือ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างต่อไป จนถึงกับทำให้คุณเครียดและคิดมาก สิ่งที่เราต้องเข้าใจ คือ คนเรานั้นไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ เราจึงต้องรู้จักปล่อยวาง กล้าที่จะเข้าไปอยู่สถานการณ์ที่เราไม่สามารถควบคุมได้บ้าง

เมื่อคุณเข้าใจความกลัวแล้ว ทุกครั้งที่คุณกลัว… จงจำไว้ว่าทุกอย่างอยู่ที่แนวคิดอุดมคติ จงคิดดูให้ดีว่าคุณกำลังพลาดอะไรไปบ้างในชีวิตที่แสนจะสั้นนี้… เพราะสุดท้าย เราจะไม่เสียใจ กับ สิ่งเราทำ แต่จะเสียดาย กับ สิ่งที่เราไม่ได้ทำ ต่างหาก…

 

ที่มา: Dr. Sun

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn