Amazon Cafe ร้านคาเฟ่กาแฟที่ตั้งอยู่เป็นคู่ขาประจำปั๊มปตท. ด้วยความสะดวกสบายในการดื่มกาแฟระหว่างเดินทางในราคาที่ไม่แพงมากทำให้ Amazon Cafe สามารถเติบโตได้เป็นอย่างมาก โดยรายได้ปีล่าสุด ปี 2559 Amazon สร้างรายได้ในไทยไปถึง 8,000 ล้านบาท ในขณะที่ Starbucks สร้างรายได้ที่ 6,051 ล้านบาท ทำให้ตอนนี้ Amazon Cafe ครองแชมป์แบรนด์กาแฟไทยที่สร้างรายได้สูงสุด
กลยุทธ์ที่แตกต่างของทั้งสองแบรนด์
จุดขายของ Amazon นั้นคือมันเติบโตมาจากร้านกาแฟประจำปั๊มน้ำมัน ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและราคาไม่สูงมากนัก ต่อมาจึงขยับขยายฐานลูกค้ามาสู่ห้างสรรพสินค้าและตัวเมืองทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงร้านกาแฟได้ง่ายยิ่งขึ้นและเพื่อควบคุมรสชาติคุณภาพของกาแฟ Amazon ก็มีการจัดอบรมพนักงานเป็นสม่ำเสมอ ถึงแม้แบรนด์จะยังไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็สามารถส่งออกไปสู่ต่างประเทศอย่างประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มจะส่งออกตลาดต่างประเทศมากขึ้นอีกด้วย ระบบสะสมแต้มบัตร PTT Blue Card ก็มีส่วนช่วยให้มีผู้คนขาประจำ Amazon ได้เก็บแต้มสะสมเพื่อแลกสิทธิพิเศษมากมายได้อีกด้วย
จุดขายของ Starbucks คือแบรนด์กาแฟที่แข็งแกร่ง มูลค่าของแบรนด์ที่สวยหรูและเอกลักษณ์ของการสั่งเมนูกาแฟหลากหลายสไตล์ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นที่ทำให้ผู้คนต่างพากันรักที่จะซื้อมาดื่ม นอกจากนี้ยังมีระบบสมาชิกที่สามารถพัฒนาขึ้นเป็นสมาชิกระดับสูงขึ้นเพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายเอาใจขาประจำได้ดีอีกด้วย แต่สำคัญที่สุด Starbucks คือร้านกาแฟที่เป็นจุดนัดพบที่ดีและสามารถนั่งทำงานนานเพียงใดก็ได้ ยิ่งในตัวเมืองพื้นที่ Starbucks จึงเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนมานั่งในร้านกาแฟเป็นจำนวนมากเพื่อทำธุระของตนเอง ดื่มด่ำกับบรรยายกาศ ทั้งหมดรวมกันจึงทำให้ค่ากาแฟที่ดูแพงดูสมเหตุสมผลขึ้นมา
Amazon Cafe vs Starbucks
ข่าวล่าสุดจาก Starbucks คือการจับมือร่วมกับปั๊ม เอสโซ่ ในการตั้งร้านกาแฟภายในตัวปั๊ม โดยจะเริ่มต้นจากสามสาขาแรกที่บางบัวทอง เพชบุรีและกาญจนบุรีก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงจะมีแผนขยับขยายไปให้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันทาง Amazon Cafe ก็มีแผนที่จะลงทุนภายในตลาดต่างประเทศของประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นเช่นกัน
ศึกชิงแบรนด์กาแฟในประเทศไทยที่ดีที่สุดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระหว่างแบรนด์ Amazon Cafe และ Starbucks แบรนด์กาแฟได้จะสามารถเติบโตได้มากกว่ากันในไทย ก็ต้องรอติดตามดูรายได้ภายในสิ้นปีนี้