หลังจากข่าวที่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อแบรนด์ Starbucks ที่ได้ทำการไล่ชาวผิวสีออกจากร้านและเรียกตำรวจมาจับกุมทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนพอ ทำให้เกิดความไม่พอใจเป็นแก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก Starbucks จึงได้ออกกฏใหม่ที่ต้อนรับลูกค้าทุกคน ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องดื่ม สินค้า ก็สามารถเข้ามานั่งเล่นภายในร้านได้ หรือสามารถขอเข้าใช้ห้องน้ำได้ โดยทาง Starbucks มีจุดประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศที่ให้การต้อนรับแก่ทุกคน และหลังจากนี้จะมีการปิดร้าน Starbucks มากกว่า 8,000 สาขาเพื่อทำการอบรมพนักงาน
สนับสนุนจุดขายคือ แบรนด์ที่เป็นมิตร
ถึงแม้ว่าจะฟังดูแล้วอาจจะเป็นการทำให้เสียกำไรเป็นจำนวนมากหรือเปล่า ถ้าปล่อยให้ภายในร้านไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาใช้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อของภายในร้าน แต่สำหรับ Starbucks ที่มีรายได้มาจากการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและลักษณะแบรนด์ที่เป็นมิตร กลุ่มลูกค้าส่วนมากของ Starbucks นั้นล้วนเป็นลูกค้าขาประจำทั้งนั้น ยิ่งแบรนด์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใด Starbucks ก็ยิ่งเติบโตได้มากขึ้น เพราะนั้นคือจุดขายของ Starbucks ไม่ใช่ขายเพียงกาแฟ แต่ยังขายแบรนด์ของตนเองผ่านทางร้านที่มีบรรยากาศอบอุ่น เป็นมิตร เหมาะแก่การนั่งทำงาน พบปะเพื่อนฝูง ไปจนถึงคุณภาพสูตรการทำเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ไม่มีทางแบรนด์กาแฟใดทำได้เหมือน แม้จะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงหน่อย แต่ก็มีฐานลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ทำให้แบรนด์ Starbucks นั้นเติบโตได้อย่างต่อเนื่องนั้นเอง
โดยมีข้อความจากจดหมายของผู้บริหาร Starbucks ถึงพนักงานทุกคนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและเข้าใจว่า
“ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาในพื้นที่ของร้าน ตั้งแต่บริเวณภายนอกร้านและห้องน้ำ พวกเขามีสิทธิเท่ากับลูกค้าของร้านทันทีโดยไม่เกี่ยวข้องว่าพวกเขาจะจ่ายเงินซื้อสินค้าภายในร้านหรือไม่ อย่างไรก็ตามถ้าหากพบลูกค้าที่อาจจะสร้างความอันตรายได้ก็สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที”
ถึงแม้ในตอนนี้ Starbucks ไทยยังจะไม่มีนโยบายการเปลี่ยนแปลงกฏในเรื่องนี้ ก็ต้องรอฟังต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างสำหรับ Starbucks ในไทย แต่การสร้างบรรยากาศที่ต้อนรับทุกคนนั้นถือว่าเป็นกฏที่กล้าเป็นอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับ Starbucks