ในตลาดการค้าปัจจุบัน เราจะเห็นว่า เจ้าของกิจการ ห้างร้านต่าง ๆ มีการเสนอดีล ในรูปแบบต่างๆ ลด แลก แจก แถม และ ที่เราเริ่มเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ การผ่อนจ่ายปัจจุบันแม้แต่การไปกินข้าวที่ร้านอาหารบางเจ้าก็สามารถทำรายการผ่อนจ่ายได้แล้ว
แน่นอนสิ่งที่เราต้องเข้าใจ คือ เจ้าของกิจการห้างร้านต่างๆ ไม่ได้ให้เราผ่อนจ่ายเพราะใจดีกับเรา แต่หวังที่จะขายสินค้าให้ได้ง่ายขึ้น เพราะการแบ่งจ่ายทำให้รู้สึกว่าราคานั้นเบาลงเพิ่มความสามารถในการจับจ่ายของแต่ละบุคคลให้มากขึ้น ไม่รวมถึงเงินเกินที่จะได้มาจากดอกเบี้ย (ถ้ามี) อีกด้วย
คำถามที่สำคัญ คือ เราควร จ่ายสด หรือ ผ่อนจ่าย ดี…
คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่า การจ่ายสดนั้นย่อมดีกว่า แต่เนื่องจากขาดพลังการซื้อหลายคนจึงต้องจำใจผ่อนจ่ายแต่ในความเป็นจริงแล้ว ในเชิงเศรษฐศาสตร์การจ่ายสดนั้นอาจจะไม่ดีอย่างที่คิด และการผ่อนจ่ายนั้นอาจจะมีดีมากกว่าที่คิดก็เป็นได้
ความสำคัญของกระแสเงินสด (Constrained Cash Flow)
การจ่ายเงินสดทำให้เรานั้น ไม่ต้องกังวล ในงวดจ่าย แต่ผลกระทบอย่างแรก คือ ทำให้กระแสเงินสดของเรานั้น ด้อยลง หากจำนวนเงินที่จ่ายไม่กระทบ กับ เงินเก็บที่มีทั้งหมด นี่ไม่ใช้ปัญหาแต่ถ้าทำให้เงินเก็บของคุณหายไปในสัดส่วนสูง มันอาจจะทำให้คุณมีปัญหาในเวลาฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน
ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)
การใช้เงินก้อนซื้ออะไรก็ตาม สิ่งที่คนส่วนมากไม่เข้าใจ คือ เราไม่ได้เพียงแค่เสียเงินจำนวนนั้นไป แต่เรายังเสียโอกาสที่จะนำมันไปใช้อย่างอื่น ซึ่งอาจจะทำให้ก่อเกิดรายได้ตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากเราไปดูหนังเราไม่ได้เสียแค่ค่าตั๋วหนัง เรายังเสียเวลานั้นซึ่งเราอาจจะสามารถนำไปใช้ทำงานพิเศษเพื่อสร้างรายได้เพิ่มก็เป็นได้
ฉะนั้น ในการผ่อนจ่ายหากไม่มี ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ) หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั้นไม่มากเกิน จนกระทบต่อความสามารถในการชำระเงินต้น ผมแนะนำ ให้ผ่อนจ่าย เสมอ ตราบใดที่คุณมีความรับผิดชอบพอ ที่จะนำจำนวนเงินที่เหลือไปใช้ให้ก่อเกิดรายได้ ความรู้เพียงเท่านี้ผมเชื่อว่าสามารถช่วยเราบริหารจัดการเงินของเราได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย ครับ…
ที่มา: Dr.Sun