ลืมการทำงาน 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นไปเลย !!
การวิจัยแนะว่ามีตัวอย่างการใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงในทำงานเท่านั้น
ในยุคที่คนทำงาน ทุกคนต่างพาตัวเองเข้ามาที่ทำงานตั้งแต่เช้า 9 โมง และทำงานจนถึง 5 โมงเย็นก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน และเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดวันจันทร์ถึงศุกร์ การอยู่ที่ทำงานเป็นเวลา 8 ชั่วโมงนั้นทำให้เราเห็นทั้งเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
ในตลอด 8 ชั่วโมงที่คนเราทำงานค่าเฉลี่ยของคนทำงานมักจะอยู่ราว ๆ 3 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง 53 นาที โดยเวลาที่เหลือพนักงานออฟฟิศชาวอังกฤษ 1989 คน ในปี 2016 พบว่าส่วนมากผู้คนใช้เวลาที่เหลืออ่านข่าว เข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงกินข้าว พูดคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน หรือ สูบบุหรี่เพื่อพัก รวมไปถึงการหางานใหม่
และการวิจัยก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่าชั่วโมงทำงานอันยาวนาน ยากที่จะหาผลลัพธ์ที่ดีได้ ในวิจัยพบว่าคนเราสามารถเพ่งสมาธิไปกับงานได้แค่ 20 นาที / ครั้งเท่านั้น หนึ่งในการศึกษาก็พบว่าคนเรามักจะใช้เวลาไปกับการพยายามทำงานยาก ๆ มากกว่า 10 วินาที ยิ่งใกล้หมดเวลาทำงาน ประสิทธิภาพในการทำงานก็เริ่มจะเป็นเส้นตรงหรือแย่ลงกว่าเดิม
เค แอนเดอร์ อีริคสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในการทำงานได้กล่าวไว้ว่า
“ ถ้าหากคุณผลักดันให้พวกเขาทำงานหนักมากกว่าเวลาที่พวกเขาจะสามารถเพ่งสมาธิได้จริง นั่นแปลว่าคุณ ทำให้พวกเขาได้รับนิสัยแย่ๆไปด้วยแล้วล่ะ” อีริคสันกล่าวต่อ Business Insider ในปี 2016
บริษัทต่าง ๆ เริ่มเลือกลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ลงก่อนนี้ขอให้พนักงานทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์ ก็เปลี่ยนเป็นทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน และ 4 วันต่อสัปดาห์แทน
การวิจัยแนะนำว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีควรจะทำงานประมาณ 5 – 6 ชั่วโมงต่อวัน และ ในประเทศสวีเดน รัฐบาลได้ทำการศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคมในปี 2015 จนถึง เดือนมกราคมปี 2017 โดย เลือกคนที่เกษียณอายุจากงานราว ๆ 80 คน ในเมืองโกเธนเบิร์ก ให้ทำงานตรงตามตาราง หลังการศึกษา พวกเขาบอกว่าพวกเขามีความสุขมากกว่า เครียดน้อยกว่า และเพลิดเพลินกับการทำงานมากกว่า ผลเสียเดียวคือการขาดคนงานมาทำงานทำให้ต้องจ้างคนที่ทำงานที่บ้านเพิ่ม จึงทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
อเมซอนเริ่มทดลองทั้งการลดจำนวนชั่วโมงการทำงานต่อวันและสัปดาห์ ในช่วงกันยายนปี 2016 ด้วยการให้พนักงานราว ๆ 20 กว่าคนทำงาน 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พนักงานเริ่มทำงาน 10 โมงเช้าจนถึงบ่าย 2 วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี พวกเขาได้รับเงิน 75 เปอเซ็นต์ จากเงินเดือนปกติ แต่สวัสดิการเท่าเดิม
อเมซอนยังไม่ปล่อยข้อมูลการทดลองครั้งนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหรือคุณภาพชีวิตของพนังงานอย่างไร แต่ข้อมูลจากการค้นหาพนักงานออฟฟิศทั่วโลกนั้น นักจิตวิทยา กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนแบบนี้ทำให้ผู้คนได้รับความสดชื่นมากขึ้น และลดความเครียดลงอีกด้วย
หลังจากการประกาศของบริษัทอเมซอน อีริคสันได้กล่าวกับสถานีวิทยุของรัฐวิซคอนซินว่าการปรับเปลี่ยน นี้จะช่วยให้ผู้คนมีประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาว “นายจ้างทั้งหลายควรจะได้รับผลงานที่ดีขึ้นจากเหล่าลูกจ้างของพวกเขา ถ้าพวกเขาได้ทำงานซัก 50 หรือ 75 เปอร์เซ็นต์จากสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่”
ขอบคุณข้อมูลจาก : businessinsider