วิธี “ช่วยลดความเครียด” ต้นเหตุที่ทำให้เราแก่เร็ว !
1. ปล่อยวางเรื่องต่าง ๆ
เราต้องลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง หลายคนมักเสียเวลาไปกับการรู้สึกผิดที่ไม่สามารถรักษาสมดุลชีวิตได้ แต่เชื่อไหมว่าความจริงแล้ว เราจะไม่รู้สึกว่าชีวิตลงตัวได้สักทีหรอก ตราบใดที่เรายังมีเป้าหมายและความฝันอยู่ในใจ นั่นก็เพราะว่าเรายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องลงมือทำ ต้องเรียนรู้ และต้องบรรลุให้ได้ ดังนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เป็นดังหวังจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาคิดมากหรือกังวลจนเกินไป
2. ตระหนักไว้ว่า แค่ทำให้ ‘ดี’ ก็เพียงพอแล้ว
เลิกเสียเวลาไปกับการทำทุกอย่างให้เพอร์เฟกต์ ไม่ว่าจะเป็นการเสนองาน หรือการหาของขวัญให้ลูกหลาน หรือทำความสะอาดของบ้านก็ตาม การทำให้ดีได้ 80% นั้นก็นับว่าเพียงพอแล้ว เพื่อที่จะได้มีเวลาไปทำงานอย่างอื่นกันต่อไป เพราะไม่อย่างนั้นเวลาในชีวิตของเราคงจะสูญเปล่าไปกับการพยายามทำมันเต็มร้อย แต่ก็ไม่เต็มร้อยสักทีนั่นเอง
3. จะงีบหรือจะแพ้
คนบ้าคลั่งทำงานมักคิดว่า “ฉันจะหลับเมื่อฉันตายเท่านั้น” แต่ประเด็นคือ การไม่หลับนั่นแหละที่จะทำให้เราตายไม่ช้าก็เร็วนี้แน่นอน ความเหนื่อยล้าไม่ใช่ตราของเกียรติยศ หากไม่นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม เราก็ทำประโยชน์อะไรให้ตัวเองและคนอื่นรอบข้างได้ไม่เต็มที่เช่นกัน
การนอนดึกเพื่อที่จะทำงานให้เสร็จหรือชอบทำอะไรจนนอนดึกๆดื่นๆ มักทำให้เราสูญเสียมากกว่าเรื่องสุขภาพ เพราะมันอาจทำให้คุณหงุดหงิดง่าย ขี้หลงขี้ลืม เจ็บป่วย มีการตัดสินใจแย่ลง และมักจะทำผิดพลาดบ่อยครั้ง จนไปถึง น้ำหนักเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว
4. ปฏิเสธคนอื่น เพื่อตัวเราเองเสียบ้าง
เรากำลังถูกขอร้องให้ร่วมงานสังคม จนไม่มีเวลาว่างให้คนในครอบครัวอยู่หรือเปล่า?
การปฏิเสธคนอื่นนั้นไม่ได้ทำให้เราดูเป็นคนเห็นแก่ตัวหรอกถ้าเราอยากให้เวลากับตัวเองบ้าง เพราะแม้ไม่มีเรา กิจกรรม ปาร์ตี้ หรืองานต่าง ๆ ก็ยังดำเนินต่อไปได้ ให้ลองคิดว่าการหายไปนั้นจะทำให้ตัวเราน่าสนใจและมีคุณค่าขึ้นเมื่อเราปรากฏตัว
5. พักเครื่อง แล้วปล่อยวาง
วิธีที่ที่รวดเร็วที่สุดในการพักผ่อนคือการปิดมือถือ ทีวี คอมพิวเตอร์ และมีความสุขกับชีวิตที่ปราศจากสิ่งรบกวนต่าง ๆ มีบางคนที่มักรู้สึกกังวลไม่มีความสุขเมื่อไม่มีเวลาดูรายการสุดโปรด ไม่เอาน่า เราจำเป็นต้องรู้จริง ๆ หรือว่าใครจะถูกคัดออกจาก The Face หรือใครคือดารานักร้องภายใต้หน้ากาก Tha Mask Singer?
บางคนอาจบอกว่าการดูทีวีช่วยคลายเครียดได้ แต่เชื่อเถอะว่ามันยิ่งทำให้เรานั้นติดเป็นนิสัยมากกว่า ทีวีนั้นทำให้เราเฉื่อยชา และเมื่อรายการจบลง ความรู้สึกกดดันนั้นก็จะโผล่ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกันกับคอมพิวเตอร์ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องดีที่เราจะติดต่อเพื่อนเก่าๆ ผ่านเฟสบุ๊ค แต่คุณจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอว่าพวกเขากินอะไรเป็นอาหารเย็น
6. เปิดใจรับความยุ่งเหยิงเสียบ้าง
คนเจ้าระเบียบมักคิดว่า ทุก ๆ อย่างต้องมีที่ของมันและจะต้องอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่เสมอแม้แต่รีโมททีวีก็ต้องวางไว้ที่เดิม หมอนถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และเคานท์เตอร์ในครัวก็ต้องสะอาดไม่มีจานวางระเกะระกะ
แต่การอ้าแขนรับความยุ่งเหยิงบ้างก็ดี เพราะมันมักมาพร้อมประสบการณ์ และยังหมายความว่าชีวิตของเรากำลังถูกเติมเต็มด้วยสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่อยากทำมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าคุณก็ไม่ใช่มนุษย์โรบอทหรือคนที่จะต้องทำตามแบบแผนอย่างเคร่งครัดไปตลอดอยู่แล้ว ดังนั้น เปิดใจกับเรื่องต่าง ๆ ให้มากขึ้นล่ะ
เมื่อทุกอย่างนั้นดูเหมือนจะล้มเหลว จงจำไว้ว่าเรานั้นโชคดีเกินกว่าที่จะกังวลหรือเครียดไปกับมัน เมื่อเรารู้สึกว่าทุกอย่างกำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตล่ะก็ ให้ลองสูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ จากนั้นให้คิดถึงแต่เรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ เชื่อเถอะว่ามันได้ผลทุกครั้งเลยทีเดียว