เปลี่ยนช่วงเวลาวิตกกังกล ให้เป็นโอกาสในการสร้างกรอบการเรียนรู้

 

ช่วงฤดูแห่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นทั้งการเลือกตั้งของสหรัฐหรือการที่อังกฤษเลือกโหวตออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) สิ่งเหล่านี้สร้างความวิตกให้กับชนชั้นแรงงานเป็นอย่างมากในเรื่องของอนาคต

ซึ่งสิ่งที่พวกเขากังวลนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเลือกของงาน เสียงที่ดังที่สุดทั้งในสหรัฐอเมริกาและในต่างประเทศมักเป็นเสียงที่แสดงเกี่ยวกับความเกลียดชังและกีดกัน แต่ความเกลียดชังและการกีดกันจะไม่ทำให้เกิดการจ้างงาน

Carol Dweck กับเพื่อนร่วมวิจัย David Yeager จากมหาวิทยาลัย Texas at Austin ช่วยกันสร้างวิธีการละลายพฤติกรรมอย่างถาวรเหล่านั้นโดยชื่อว่า “a nation of learners” ประเทศที่เป็นผู้เรียนรู้

นักเรียนระดับมัธยมประมาณ 19,000 คน ทั่วสหรัฐถูกสอบถามเพื่อให้ทำแบบทดสอบคณิตศาสตร์ที่เป็นหัวข้อวิจัย ค้นพบว่านักเรียนเหล่านี้เลือกที่จะทำข้อที่ง่ายที่สุดและพวกเขารู้ว่าจะไม่ได้เรียนรู้อะไรจากการทำแบบทดสอบนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องไม่ดีเสมอไปเมื่อพบว่านักเรียนที่มีส่วนร่วมในการทำ workshop ออนไลน์มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ใน workshop ออนไลน์นี้สามารถทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ 2 สิ่ง อย่างแรก คือ พวกเขาเรียนรู้กรอบความคิดแบบเติบโต ผ่านการทำแบบทดสอบที่ยาก และใช้ความพยายามในการทำแบบทดสอบเหล่านี้สามารถทำให้สมองและทักษะของพวกเขาพัฒนาขึ้น อย่างที่สอง คือ พวกเขาได้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในสังคม ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชุมชน หรือสังคม พวกเขาได้เรียนรู้วิธีการใช้กรอบความคิดแบบเติบโต และหน่วยความจำในสมองเพื่อช่วยในการทำแบบทดสอบเหล่านั้น

ซึ่งนักเรียนเหล่านี้สามารถช่วยให้ตัวเองอยู่ในภาวะที่ยากลำบากได้เมื่อเปรียบเทียบกับนักเรียนที่มาได้เข้าร่วมทำ workshop ครั้งนี้ ทั้ง 30% ของเด็กนักเรียนเหล่านี้เลือกปัญหาที่ท้าทายต่อความสามารถของพวกเขา ปัญหาที่จะทำให้พวกเขามีพัฒนาการในสมองมากขึ้นพวกเขาเรียนรู้กรอบแนวคิดแบบเติบโตความคิดที่ว่าผ่านการทำงานอย่างหนักกับงานที่ยากพวกเขาสามารถพัฒนาสมองและความสามารถของพวกเขา

Dave Paunesku และ Sarah Gripshover วิจัยเกี่ยวกับ the Project for Education Research That Scales (an applied research center at Stanford) ถามถึงทำอย่างไรผู้ใหญ่ถึงจะสนับสนุนเพื่อช่วยในการฝึกฝนงาน จากการศึกษาอย่างต่อเนื่องพบ 2 สิ่งสำคัญนั่นคือ

1) ผู้คนต้องการรู้ว่างานที่พวกเขาอย่างทำมีตำแหน่งว่าง

2) พวกเขาต้องเข้าใจทักษะที่งานเหล่าต้องจำเป็นต้องมี

ในบางวิจัยที่เขาศึกษาพบว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วเช่น พวกเขาเชื่อหรือไม่ว่ามันเป็นไปได้เสมอสำหรับคนที่ต้องการเก็บเกี่ยวทักษะและประสบการณ์ที่งานจำเป็นต้องมีหรือได้ทำงานที่ตัวเองชอบ หรือแม้กระทั่งถ้าหากว่าคนเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำงานได้ตอนนี้ และถ้าเขาจะมีคุณสมบัติเหล่านั้นภายหลังได้หรือไม่ ? คนที่มีความเชื่อเหล่านี้มีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น ๆ ที่กำลังมองหาการฝึกอบรมทั้งในงานและนอกระบบ

จากผลการศึกษาบอกว่า หากบอกพนักงานว่ามีงานให้เขาทำว่างอยู่และเป็นงานที่น่าสนใจมาก พวกเขาจะเรียนรู้ว่ามีทักษะอะไรจำเป็นจะต้องใช้เกี่ยวกับการทำงาน และการขาดแคลนแรงงานก็ยังอยู่มีมาก ผลของการทำวิจัยครั้งนี้ทำให้รู้ว่า การเพิ่มอัตราการจ้างงานจะต้องมีข้อมูลของงาน และสิ่งที่ทำให้ความตั้งใจของเขาพัฒนาขึ้นในแบบการถูกฝึกฝนอย่างเป็นทางการ

องค์กรต่าง ๆ มีความมุ่งมั่นที่จะจัดทรัพยากรความรู้เหล่านั้นเพื่อเป็นโอกาสในการฝึกฝนพนักงานอย่างจริงจัง และสร้างแรงจูงใจ ความภัคดี แรงงานที่สำคัญ และยังเป็นการสร้างหลักที่ดีให้กับองค์กรอีกด้วย

ผู้ประกอบการหลายคนเปิดเผยว่าผู้คนกังวลเกี่ยวกับการกลัวว่าจะเป็นคนล้าหลังและคนที่ลงทุนเกี่ยวกับพนักงานจะช่วยให้สร้าง a nation of learners หรืออาจจะแม้กระทั่งแก้ไขความวุ่นวาย และฟองสบู่ที่ทางการเมือง 

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn