เบื้องหลัง “Konvy” ที่เกิดจากผู้ชาย

เบื้องหลังของ Konvy มาจากนักธุรกิจหนุ่มอายุ 30 ปี ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางมาก่อนแต่มีความชอบตลาดอีคอมเมิร์ซ และประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซ เขาเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 20 ปี

นักธุรกิจหนุ่มคนนั้นก็คือ คิงกุ้ย หวง ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดหลังจากที่เรียนจบนั้นก็ได้กลับมาทำธุรกิจที่บ้านเกิดคือประเทศจีนเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Chinafung.com เป็นแพลตฟอร์มมัลติแบรนด์แฟชั่น รวมดีไซเนอร์ที่มีแบรนด์ของตัวเอง แต่ทำการตลาดไม่เก่งเท่าไหร่มารวมขายในแพลตฟอร์มนี้ คิงกุ้ย มีตำแหน่งเป็น CMO แต่ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องผู้ลงทุน จึงออกมาทำอีกแพลตฟอร์มเป็นแบรนด์ตัวเองชื่อ Sixyard ต่อยอดจากการมีคอนเน็คชั่นกับดีไซเนอร์ เอาสินค้ามาทำแบรนด์ของตัวเองแล้วจำหน่ายใน Tmall ปรากฏว่าขายดี แต่ไม่มีกำไร เพราะคนจีนไม่ชอบแฟชั่นในประเทศ ชอบแฟชั่นทางตะวันตกมากกว่า และอีกอย่างคือที่ประเทศจีนตลาดอีคอมเมิร์ซมีการแข่งขันสูงมากถึงมากที่สุด

 

จึงเกิดเป็น Konvy ขึ้นมา โดยที่เริ่มต้นก่อตั้งกับพี่ชาย และเพื่อนที่เป็นนักลงทุน คนรู้จักอีกนิดหน่อย เริ่มจากการพัฒนาเว็บไซต์ที่จีน และเริ่มเปิดตลาดที่ประเทศไทยซึ่งพี่ชายอาศัยอยู่ที่ไทยในขณะนั้น

ตอนแรกอยากจะทำเหมือนกับ Lazada แต่ว่าตอนนั้นพบว่า Lazada ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว และมีแบ็คอัพที่ใหญ่มาก มีทุนหนามาก จึงลองมองเป็นตลาดบิวตี้เพราะว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง และเป็นสินค้าที่คนไทยชอบ มีการซื้อขายเยอะ มีแบรนด์ใหม่ ๆ ออกมาตลอด ตลาดโตขึ้นทุกปี จริง ๆ ก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องสำอางอะไรเลย แต่คิดว่ามันมีโอกาสดีเท่านั้น

Konvy มาจากคำว่า Convenience แปลว่า ความสะดวกสบาย แต่เปลี่ยนจากตัว C เป็นตัว K ต้องการสื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในการซื้อสินค้าบิวตี้

 

Konvy เป็นอีคอมเมิร์ซที่เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับแบรนด์ไม่ใช่มาร์เก็ตเพลสที่ให้ใครมาวางขายสินค้าก็ได้แต่เป็นแพลตฟอร์มในการช่วยแบรนด์ทำการตลาดด้านออนไลน์ตอนนี้มีแบรนด์ความงามเกิดขึ้นจำนวนมาก

ในการช่วยทำการตลาดมีการเก็บค่าแรกเข้าเพื่อในการทำธุรกิจร่วมกัน Konvy ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีจุดยืนที่ค่อนข้างชัดเจน เจาะแค่กลุ่มเดียว คิงกุ้ยมองว่า การทำตลาดในสินค้ากลุ่มบิวตี้ นั่นไม่ได้จำกัดแค่ขายเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่เสริมกันอย่าง นิตยสารแฟชั่น หรือคลินิกความงามได้อีกด้วย

Konvy เติบโตมาจากโลกออนไลน์ 100% เพราะว่าเป็นธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ส่วนมากจึงทำการตลาดแต่ในออนไลน์ทั้งในโซเชียลมีเดีย แต่ในปีนี้ Konvy เลือกที่จะกระโดดมาโลกออฟไลน์มากขึ้น เพื่อทำการสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ และขยายฐานลูกค้า

ในปีนี้คาดว่าจะทำการตลาดเพิ่ม จากที่เมื่อก่อนทำแต่ออนไลน์อย่างเดียว แต่จำเป็นต้องหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่ม มิเช่นนั้นก็จะได้แต่ลูกค้ากลุ่มเดิม รวมถึงเป็นการสร้างแบรนด์มากขึ้นด้วย

การตลาดออฟไลน์นั้นก้จะมีทั้งการลงสื่อออฟไลน์ทั้งป้ายโฆษณาต่าง ๆ และการทำอีเวนต์ รวมไปถึงการทำเวิร์กช้อปสอนแต่งหน้า มีการเชิญบล็อกเกอร์มาช่วยสอน แต่อย่างไรแล้วตลาดจะเติบโตต้องให้ภาครัฐช่วย เพราะตอนนี้ทุกคนแทบจะขาดทุนกันหมด เกิดจากการแบกรับภาษีเยอะ รวมถึงทางรัฐต้องช่วยพัฒนาเรื่องระบบการชำระเงิน และการจัดส่งให้เป็นมาตรฐานด้วย

 

ความท้าทายที่สุดในตอนนี้ก็คือ คนอื่นจะบอกว่าอีคอมเมิร์ซยาก ถ้าทำได้ก็สามารถทำอย่างอื่นได้ เป็นธุรกิจใหม่ ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีครู ตอนแรกที่ทำธุรกิจนี้ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอางอะไรเลย ตอนนี้ต้องรู้ทุกอย่าง รู้ทุกแบรนด์ เพราะต้องทดลองสินค้าก่อน และต้องแนะนำแบรนด์ได้ ต้องรู้พฤติกรรมผู้บริโภคว่าทำไมผู้หญิงต้องใช้สินค้าตัวนี้ และเรื่องความถี่ในการใช้ เพื่อในการกระตุ้นการซื้อของลูกค้า

ปัจจุบัน Konvy มีลูกค้า 1 ล้านราย แอคทีฟ 500,000 ราย ส่วนมากอายุระหว่าง 24-34 ปี มีการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์มีแบรนด์ที่จำหน่ายในระบบมากกว่า 700 แบรนด์ มีโกดังเก็บสินค้าอยู่แถวอุดมสุข ส่วนด้านโลจิสติกส์เป็นพาร์ทเนอร์กับไปรษณีย์ไทย Kerry และนินจาแวน มีการพัฒนาการจัดส่งแบบ Same day delivery

 

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn