เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Microsoft ได้เปิดตัวแว่น HoloLens 2 headset ซึ่งมีราคาราว ๆ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นแว่น AR ที่เราสามารถเห็นภาพดิจิตอลที่เหมือนของจริงได้ รวมไปถึงสามารถจับต้องได้เช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ Alex Kipma ผู้ประดิษฐ์คิดค้นแว่น HoloLens 2 ได้ประกาศในงานอีกด้วย ว่า Microsoft มีความพยายามที่จะอนุญาตให้ทุกคนสามารถจัดการและควบคุม HoloLens หรือชุดหูฟังของ Windows ชนิดอื่น ๆ ผ่านทาง App store ได้อีกด้วย
มันเป็นความมุ่งมั่นที่มาพร้อมกับการอภิปรายอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของสมาร์ทโฟนแอพสโตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปเปิลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเพื่อกำหนดให้นักพัฒนาสามารถแยกธุรกรรมของ App Store ได้มากถึง 30% ในขณะที่คู่แข่งไม่อนุญาตให้คู่แข่งเปิดร้านค้าแอพ iOS ของพวกเขาเอง
ซึ่งแผนการนี้ยังสามารถเอาชนะใจอดีตนักวิจารณ์อย่าง Tim Sweeney CEO ของเกมส์ Fortnite ในEpic ที่เคยวิจารณ์ Windows 10 ในปี 2016 ว่าทำให้ระบบ PC เป็นแพล็ตฟอร์มแบบปิดเหมือนกับระบบ IOS
โดย Sweeney ประกาศว่า HoloLens 2 จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเขาในเรื่องของซอฟต์แวร์แบบ Unreal Engine 4 หรือเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของ Epic และในวงกว้าง บริษัทจะพิจารณา HoloLens เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในอนาคตอีกด้วย
การที่ทั้งสองค่ายร่วมมือกันเพื่อสร้างพันธมิตรที่สามารถส่งเสริมการแข่งขันระหว่างแอพสโตร์ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทต่าง ๆ ทั้ง Apple, Facebook,รวมไปถึง Microsoft นั้น เชื่อว่าเทคโนโลยี AR หรือการมองเห็นภาพเสมือนจริง อย่างเช่น HoloLens จะถือเป็นนวัตกรรมใหม่ต่อจากสมาร์ทโฟน และด้วยการประกาศตัวเป็นพันธมิตรกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Epic ก็จะทำให้ Microsoft นั้นมีอิทธิพลมากขึ้นไปอีก เพราะการที่ทำให้ Fortnite สามารถเล่นได้ทั้งใน Xbox, PC รวมไปถึงในสมาร์ทโฟนนั้นจะสามารถเรียกลูกค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่งการประกาศความเป็นพันธมิตรนี้จะสามารถสร้างความกดดันให้แก่ Apple และ Google ได้อย่างแน่นอน จุดยืนดังกล่าวนั้นเป็นประโยชน์ต่อ Microsoft มากเช่นกัน เพราะโดยปกติทางMicrosoft มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้าน PC แต่การร่วมมือในครั้งนี้ Microsoft เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าให้เข้าใช้แอปของ Microsoft บน PC ได้มากขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ สำหรับทาง Microsoft ไม่ได้มีอะไรมากมายที่จะสูญเสียในเรื่องนี้เช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้ Windows อาจจะไม่เข้าตา Sweeney แต่การร่วมมือด้วยการเลือกการต่อสู้ครั้งนี้ Microsoft สามารถทำให้ตัวเองดูดีขึ้นสำหรับนักพัฒนาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของธุรกิจเลยแม้แต่น้อย
ขอบคุณข้อมูล businessinsider