1 วัน ของทุกคน มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน เรื่องที่ทุกคนรู้ แม้เราจะใช้เวลาเท่ากันเพราะอะไรเราจึงมีคนที่หาเงินเก่งกับคนที่หาเงินไม่เก่ง ?
การทำงานได้อย่างรวดเร็วและประสิทธิภาพไม่ได้เกิดจากการกระทำเพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วอยู่ที่ “วิธีคิด” ซึ่งเป็นเบื้องหลังของการกระทำนั้น การจะบอกว่ารายได้สูงสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วก็ถูก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเคลื่อนไหวมือเท้าได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น ๆ
กลยุทธ์ด้านเวลา ที่แท้จริงมีเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยมีวัตถุประสงค์ให้แต่ละคนทำสิ่งที่จำเป็นหรือมีสถานะทางการเงินที่ดี เพื่อทำให้สิ่งที่ปรากฏนาเป็นจริง และมีวิถีชีวิตในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
คนทำงานเร็วเพื่อเป้าหมายแล้วจะไม่เลือกวิธีการ
คนทำงานช้าคิดว่า เรื่องอย่างนี้รับไม่ได้ ..
คนทำงานเร็วนั้นเพื่อเป้าหมายแล้วจะไม่เลือกวิธีการ แม้จะฟังดูไม่ใช่เรื่องดี แต่แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงการทำสิ่งผิดกฎหมาย ความหมายจริง ๆ คือ “เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว สามารถทำได้ทุกอย่าง” หมายถึงให้ตัดเงื่อนไขว่า “ต้องอย่างนี้” “อย่างนั้นไม่มีทาง” “อย่างนั้นเขาไม่ทำกัน” ไม่ตั้งแต่เรื่องศาสนาหรือข้อห้าม
คนรวยที่ทำงานเร็วไม่คำนึงถึงเรื่องทางศาสนาหรือข้อห้ามใด ๆ
คนทำงานเร็ว ลองทำ “งานที่อยากทำ”
คนทำงานช้า มัวแต่ทำ “สิ่งที่ควรทำ”
ในวันหนึ่งงานของคนทำงานช้าส่วนใหญ่จะเป็น “สิ่งที่ต้องทำ” ต้องส่งเอกสาร ต้องตอบอีเมล ต้องชำระค่าบริการโทรศัพท์มือถือ
แต่คนที่จะดีใจเมื่อเราทำสิ่งเหล่านั้นคือคนอื่น เช่น คนที่ได้รับเอกสาร คนที่ได้รับอีเมล และคนที่ได้รับค่าบริการโทรศัพท์…
แน่นอนว่าแต่ละอย่างที่ว่ามานี้ก็สำคัญ แต่ไม่ว่าจะทำสิ่งที่ต้องทำมากขนาดไหน สุดท้ายนี่ก็เป็นเพียงการตอบสนองความปรารถนาของคนอื่นหรือถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นบรรลุเป้าหมาย
ครึ่งหนึ่งของ “สิ่งที่ต้องทำ” ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน เกิดขึ้นเพราะเรายอมให้คนอื่นกดดัน และไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นหรือทำในสิ่งที่เป็นเป้าหมายของตัวเองไม่ว่าเราจะทำงานเหล่านั้นได้ดีแค่ไหน หรือเลี่ยงสภาพการณ์ที่ไม่สบายใจได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้มุ่งไปในทิศทางเบื้องหน้าได้มากนัก
ดังนั้น หากไม่ทำสิ่งที่คิดว่า “อยากทำ” ให้มากขึ้นสถานการณ์ของเราก็จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่การคิดว่า “อยากทำ” ต้องไม่ใช่เพราะคนอื่นสั่ง แต่คุณต้องคิดและกำหนดเอง เมื่อไม่ได้มีกำหนดเวลาถึงไม่ทำก็ไม่มีใครเดือดร้อน มันจึงไม่กดดัน แถมยังคิดได้อีกว่า ถึงไม่ทำก็ไม่ได้เดือดร้อนอีกต่างหากอย่าง
วิถีชีวิตที่ให้ความสำคัญกับการ “อยากทำ” มากกว่า “ต้องทำ”
แม้จะไม่มีจุดประสงค์หรือความมุ่งหมายใดเป็นพิเศษ พวกเราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ ไม่ว่าเราจะทำสิ่งที่มีความหมายหรือไม่ วันเวลาก็ผ่านไปอยู่ดีไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่มีคุณค่าหรือไม่ เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ พร้อมกับอายุที่มากขึ้น ๆ ต่อให้คุณไม่ทำก็ไม่มีใครเดือดร้อนฉะนั้นให้ลดสิ่งที่ “ต้องทำ” ลงหรือทำให้เสร็จเร็วขึ้น แล้วชดเชยพื้นที่ของงานในแต่ละวันด้วย “สิ่งที่อยากทำ” ถ้าเป็นงานที่บริษัทก็อาจเสนอแนวคิดว่า “ถ้าเราทำแบบนี้จะเพิ่มยอดขายได้สูงขึ้น ถ้าทำแบบนี้จะลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ถ้าทำอย่างนี้จะได้ประโยชน์กว่า”
ซึ่งเป็น “สิ่งที่เราอยากทำ” และเป็น “การสร้างสรรค์สิ่งใหม่” ไปพร้อมกันในชีวิตส่วนตัวเราก็สามารถทำ “สิ่งที่อยากทำ” เพื่อพัฒนาความสามารถและทักษะ หรือสร้างสินทรัพย์เช่นการลงทุน รวมทั้งรักษาและความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้แล้วชีวิตของคุณจะสนุก ลึกซึ้ง และได้รับการเติมเต็มยิ่งขึ้น
คนรวยที่ทำงานเร็วรู้จักการสร้างประสิทธิภาพในแบบของตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ คนรวยทำงานเร็ว โกะโด โทคิโอะ