6 วิธีช่วยเพิ่มยอดขายใน Facebook ให้ได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Facebook เป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญสำหรับธุรกิจ eCommerce ที่จะทำการโปรโมทและเรียกลูกค้า เพราะ Facebook นับว่าเป็นศูนย์รวมลูกค้าขนาดใหญ่ หากคุณรู้วิธีโฆษณาที่แตกต่างนั้น คุณจะสามารถสร้างยอดขายและเพิ่มความก้าวหน้าให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

  1. เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญที่เหมาะสม

แคมเปญโฆษณาของ Facebook ช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายได้ตามความต้องการของคุณ  คุณสามารถระบุได้ว่าคุณต้องการอะไรจากกลุ่มเป้าหมาย

เช่น

  • จำนวนการมีส่วนร่วม
  • จำนวนการกดไลค์ คอมเมนต์ และแชร์
  • จำนวนการเข้าถึง

เมื่อคุณวางแผนว่าธุรกิจหรือโพสต์ของคุณต้องการอะไรในขณะนั้น คุณสามารถเลือกลักษณะแคมเปญเพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของคุณได้ นั่นจะทำให้การโพสต์ของคุณไม่เสียเปล่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

  1. Facebook Marketplace ก็เป็นช่องทางที่ดี

การใช้งาน Facebook Marketplace นับเป็นตลาดเพื่อขายของโดยเฉพาะและสามารถโฆษณาได้ง่ายขึ้น ในการศึกษาล่าสุดของทาง Facebook เผยให้เห็นว่า Thread Wallet ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกระเป๋าสตางค์ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 16% และสามารถเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมทั้งแสดงให้เห็นว่าโฆษณาของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 41%

 

  1. ใช้ข้อเสนอพิเศษเป็นตัวดึงดูด

ลองจัดตั้งข้อเสนอพิเศษหรือโปรโมชั่นดี ๆ เพื่อผลักดันยอดขายและเพิ่มจำนวนผู้สนใจให้กับเพจของคุณ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคมองหาก็คือโปรโมชั่นสุดพิเศษ หรือลองใช้โปรโมชั่นรหัสและของรางวัลเพื่อให้ผู้คนสนใจ เช่น Flash Sale โดยกำหนดระยะเวลาในการเลือกกซื้อในราคาสุดพิเศษ วิธีนี้สามารถสร้างความกระตือรือร้นให้กับลูกค้า และดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น คุณยังสามารถใช้แคมเปญโฆษณาเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมข้อเสนอพิเศษของคุณให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ซึ่งวิธีนี้นับว่าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการผลักดันการมีส่วนร่วมจากผู้บริโภคในระยะยาวได้อีกด้วย

 

  1. อย่าแสดงโฆษณากับผู้ที่ไม่สนใจ

Facebook มีความสามารถแยกแบบโฆษณาตามประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณต้องเลือกระบุให้ดีว่าโฆษณาของคุณนั้นเจาะจงกับลูกค้ากลุ่มใด คุณสามารถใช้ ‘ตัวกรองโฆษณา’ ที่เพิ่งเปิดตัวของ Facebook เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณจะไม่ปรากฏพร้อมกับเนื้อหาบางประเภท เพราะมันอาจก่อให้เกิดความรำคาญได้สำหรับผู้ที่ไม่สนใจในตัวสินค้าหรือโฆษณาของคุณ และอาจเกิดผลเสียตามมาอย่างเช่น การโดนบล็อกจากลูกค้า

 

  1. ตรวจสอบและเก็บข้อมูลลูกค้า

ถ้าคุณเริ่มเก็บข้อมูลลูกค้าที่มาซื้อสินค้าคุณและนำมาประกอบกับการโฆษณาเป็นไปได้ที่จะเห็นว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงในการโฆษณาในครั้งถัดไปของคุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสามารถตามเก็บสถิติข้อมูลของลูกค้าคุณโดยใช้การติดตามที่มีให้ใน Facebook เพราะข้อมูลเหล่านั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่น อายุ, สถานที่, เพศ, ความสนใจ องค์ประกอบเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจัดการทำโฆษณาในครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น

 

  1. ใช้ Lookalike เข้าช่วย

การใช้ AI ของ Facebook เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายกลุ่มลูกค้าของคุณนับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดในการเพิ่มลูกค้าเลยก็ว่าได้ เพราะการทำงานของ AI ในการหากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงนั้นสามารถทำได้โดยอาศัยข้อมูลที่คุณมี คุณสามารถใช้ลักษณะของลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของคุณ หรือแม้กระทั่งผู้ที่เคยสนใจในเพจและโฆษณาของคุณ เมื่อ Lookalike สามารถหาข้อมูลเหล่านี้มาได้ คุณก็สามารถทำการโฆษณาโดยระบุกลุ่มเป้าหมายนี้ รับรองว่ามันจะได้ผลจนน่าตกใจเลยทีเดียว

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn