หลายคนอาจคิดว่าการเรียนรู้จบแค่ในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น เมื่อจบออกมาก็ทำงานอย่างเดียว
ไม่ต้องอ่านหนังสือหรือเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความรู้เดิมที่เคยมีหรือสิ่งเดิมที่เคยทำอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ทักษะอย่างหนึ่งที่จะทำให้อยู่รอดได้ คือ “นิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต” มาดูกันว่าวิธีที่จะทำให้นิสัยนี้เกิดขึ้น ต้องทำอย่างไรบ้าง
ตระหนักถึงประโยชน์ของการเรียนรู้ เมื่อเราตระหนักว่าสิ่งใดสำคัญ เราจะจดจำและลงมือทำสิ่งนั้นอย่างตั้งใจ เฉกเช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวว่า “ การพัฒนาทางสติปัญญาควรจะเริ่มเมื่อแรกเกิด และหยุดเมื่อชีวิตสิ้นสุดเท่านั้น ” เขาแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต พยาบาลที่ดูแลอาการป่วยของเขาที่โรงพยาบาลบอกว่า “ เขายังคงเขียนสูตรทางฟิสิกส์ที่เขากำลังแสวงหาคำตอบลงไปในกระดาษ
อยู่เลย ” ผลจากการเรียนรู้ตลอดชีวิตของไอน์สไตน์ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
มั่นสร้างนิสัยการเรียนรู้ การเรียนรู้ตลอดชีวิตไม่ใช่ต้องทำทั้งวันทั้งคืน หรือเรียนรู้แบบไม่หยุดหย่อน
แต่เป็นการค่อยๆเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สามารถนำเวลาเหลือจากภารกิจอื่นแล้วมาใช้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ เพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น อ่านหนังสือวันละ 1 ชั่วโมง ถ้าอ่านตลอดทั้งปี ระยะเวลาอ่านหนังสือทั้งหมดก็จะเป็น 365 ชั่วโมง และจะพบเห็นการเปลี่ยนแปลงในตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิ ภาพมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะบอกรอบข้างไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวว่าคุณเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่และให้พวกเขาช่วยย้ำเตือนให้คุณรับผิดชอบต่อความตั้งใจจริงของคุณ เพราะพวกเขาเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นและสนับสนุนให้คุณเกิดแรงจูงใจและมีความแน่วแน่ต่อเป้าหมายในการเรียนรู้
การเรียนรู้ คือ กระบวนการหนึ่งในชีวิตที่ทุกวันนี้จะขาดไปไม่ได้ เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และทำให้ได้พัฒนาตัวเอง ตลอดจนสังคมและประเทศชาติ หากคุณลองนำ 3 ข้อนี้ไปปฎิบัติ คุณจะกลายเป็นคนที่รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต และนั่นก็จะรับประกันว่า แม้โลกจะหมุนเร็วแค่ไหน หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คุณก็จะสามารถรับมือกับมันได้ ไม่เป็นคนตกยุคอย่างแน่นอน ขอให้สนุกและ
มีความสุขกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตกันนะครับ….
