ต้องบอกว่าเว็บไซต์นั้นถือเป็นเครื่องมือที่ยั่งยืนและปลอดภัยที่สุดสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ เพราะไม่ว่าคุณจะโด่งดังในแพลตฟอร์มต่างๆ มากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า “ที่นั่นไม่ใช่บ้านของคุณ” แพลตฟอร์มอื่นนั้นมีกฎ มีอัลกอริทึม มีระบบใหม่ๆ ที่คุณต้องอัปเดตตามตลอดเวลา แต่สำหรับเว็บไซต์ คือที่เดียวที่คุณจะอุ่นใจว่ามันเป็นที่ของคุณเอง คุณอยากจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนมันก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ปลายนิ้วของคุณ
แต่การจะสร้างเว็บไซต์ให้อยู่ได้ยืนยาว น่าเชื่อถือ และสามารถสร้างรายได้ไปในทางเดียวกัน สิ่งสำคัญที่คือการสร้าง Content เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณ มีโอกาสโผล่ไปทักทายคนทั่วโลกได้
จากการค้นหาผ่าน keyword ต่างๆ ดังนั้นบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจ 5 กฎเหล็กของการสร้าง Website ที่สามารถอยู่ได้นาน ดีงามได้แบบยืนยาว
1. รู้ก่อนว่าเว็บไซต์ของเรามีไว้เพื่อแก้ปัญหาอะไร หรือ ให้บริการอะไร
การทำเว็บไซต์ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำธุรกิจ และธุรกิจที่ดีนั้นจำเป็นจะต้องมี Business Model Canvas ซึ่งคำถามแรกที่เราควรจะต้องตอบให้ได้ก็คือ เว็บไซต์ของเรามีความจำเป็นอย่างไร? หรือก็คือเว็บไซต์ของเรา มีไว้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องอะไร ให้บริการเรื่องอะไร เพราะถ้าไม่สามารถตอบคำถามข้อนี้ได้ ก็หมายความว่าคุณกำลังพายเรือวนในอ่างแบบไม่มีจุดหมายอยู่
2. ใครเป็นคนได้รับประโยชน์
ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือ ‘คนที่เข้ามาอ่านเว็บไซต์ของเราคือใคร’ ซึ่งนั่นก็ต่อยอดมาจากข้อแรก ว่าเว็บไซต์ของเราสามารถตอบสนองปัญหาหรือความต้องการของใครได้บ้าง เช่น ถ้าคุณทำเว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลด้านการเรียนภาษา คุณก็ควรตอบได้ว่าคนที่ได้รับประโยชน์จากเว็บไซต์คุณ จะเป็นใคร อายุเท่าไร และมีปัญหาด้านอะไร ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการระบุว่า ‘ลูกค้าคือใคร’ ใน Business Model Canvas
3.รู้ว่าคู่แข่งของเรามีใครบ้าง
แม้ธุรกิจที่คุณคิด มันจะดูใหม่มากแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่มีคู่แข่ง เพราะขนาด Apple ที่ว่าเป็นนวัตกรรมที่ใหม่ที่สุดในโลก ก็ยังต้องแข่งกับตลาดโทรศัพท์ในรูปแบบเก่าๆ อยู่ เพราะฉะนั้นคุณต้องรู้ว่า ‘ใครคือคู่แข่งของคุณบ้าง’ เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นช่องว่างว่า เมื่อคุณกระโดดเข้ามาในการแข่งขันนี้แล้ว เว็บไซต์ของคุณจะไปอยู่ตรงไหน และควรมีกลุ่มเป้าหมายแบบไหน
4. ระบุกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
ธุรกิจที่เกิดขึ้นมาโดยที่ยังนึกภาพของลูกค้าไม่ออก ย่อมเป็นธุรกิจที่พัฒนาไปแบบไม่มีจุดหมาย เพราะสุดท้ายแล้ว คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังพัฒนาสินค้าหรือบริการเพื่อใครอยู่กันแน่ ดังนั้นเมื่อคุณรู้ว่าเว็บไซต์ของคุณสร้างมาเพื่ออะไร ใครจะได้รับประโยชน์จากเว็บไซต์คุณ คู่แข่งของคุณมีใคร ต่อมาคือคุณต้องมองภาพให้ชัดกว่าเดิมว่า กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นแบบไหน เช่น ถ้าคุณทำเว็บไซต์การเรียนด้านภาษา คุณก็ต้องระบุให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ คือคนที่ขาดทักษาะภาษาระดับไหน ต้องการเรียนภาษาไปเพื่ออะไร ทำไมเค้าถึงต้องมาเรียน และการเรียนภาษาจะสามารถเติมเต็มเค้าได้อย่างไร
5. ติดตามพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน
ต่อมาขั้นสุดท้าย ก็คือการตามเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายซึ่งจะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต ด้วยการพยายามสร้างคอนเทนต์เพื่อให้ประโยชน์และดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นก็คอยติดตามผลลัพธ์ ว่าคอนเทนต์แบบไหน ได้รับผลตอบรับอย่างไร คนชอบอ่านแบบไหน คนชอบดูภาพอย่างไร แล้วคอนเทนต์ที่เราสร้าง พาเราไปถึงจุดประสงค์การตลาดในขั้นไหน เป็นต้น
