เราอาจจะคุ้นชินกันดีสำหรับการติด #แฮชแท็ก บนโพสต์ต่างๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเหมือนกับไม่ได้ผลเท่าไรนักในการสร้างยอด reach เท่ากับ Instagram หรือบน Twitter เพราะเมื่อเกิดการค้นหาตาม #แฮชแท็ก กลับพบว่าคนไม่ได้กดเข้ามามากเท่าไรนัก
ด้วยปัญหาด้านการใช้งานที่ว่านี้ Facebook จึงได้ออกมากระตุ้นให้มีการใช้ #แฮชแท็ก อีกครั้ง ด้วยการให้ผู้ใช้หลายคนได้รับ notifications เมื่อเกิดการติด #แฮชแท็ก เพื่อเน้นการใช้แฮชแท็กในทุกแพลตฟอร์ม
แต่จริงๆ แล้ว วิธีการ #แฮชแท็ก นั้นมันเวิร์กจริงหรือ?
สำหรับคำถามที่ว่าการติดแฮชแท็กบนโพสต์ จะช่วยปรับปรุงและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอด reach ได้หรือไม่ ก็คงต้องย้อนไปดูความสัมพันธ์ระหว่าง facebook และ #hashtag ก่อนหน้านี้ ที่ดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียด
เพราะหากย้อนไปในปี 2013 ซึ่งเป็นปีแรกที่ facebook ได้เริ่มใช้ #แฮชแท็ก ครั้งแรก หลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Twitter ซึ่งก็ปรากฎว่าไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะคนส่วนใหญ่เองก็ไม่คุ้นชินกับการมาติดแฮชแท็ก บน facebook ทำให้อัลดิริทึมของการ search และ reach ผ่านแฮชแท็กบน facebook ไม่ประสบความสำเร็จเอาซะเลย
จนมาถึงปี 2016 มีดิจิตอลเอเจนซีเจ้าหนึ่งชื่อ BuzzSumo ที่มีประสบการณ์ในการโฑสต์บน facebook มากกว่าพันล้านโพสต์ จากเพจแบรนด์ที่ดูแลกกว่า 30 ล้านเพจ ได้ลองวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการโพสต์ระหว่างแบบที่มีดารติดแฮชแท็ก และแบบที่ไม่ได้ติดแฮชแท็ก ซึ่งก็พบว่า โพสต์ที่ไม่มีแฮชแท็ก สามารถสร้างยอด reach โดยเฉลี่ยได้ดีกว่าโพสต์ที่ติดแฮชแท็กซะอีก ซึ่งก็เป็นการตอกย้ำความล้มเหลวของการพยายามใช้ระบบค้นหาผ่านแฮชแท็กอีกรอบของ facebook
สี่ปีผ่านไป มีอะไรเปลี่ยนหรือเปล่า?
ผ่านเวลาแห่งความล้มเหลวมาแล้วถึง 4 ปี ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของ facebook ก็ได้ออกมาเปิดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความพยายามในการผลักดันให้มีการใช้แฮชแท็กบน facebook อีกครั้ง โดยครั้งนี้ให้สัญญาอย่างมั่นเหมาะเลยว่า ใช้แฮชแท็กเถอะ แล้วฉันสัญญาว่าจะพัฒนายอด reach ให้ได้ดีขึ้น
ความพยายามในการใช้แฮชแท็กของ facebook ได้เริ่มกลับมาตั้งแต่ระหว่างวิกฤตโควิดใหม่ๆ โดยสังเกตว่า facebook จะสนับสนุน Small business ให้ใช้แฮชแท็กเป็นพิเศษในช่วงโควิด
ที่ facebppk ต้องกลับมารื้อฟื้นและขุดระบบแฮชแท็กอีกครั้ง ก็เพื่อต้องการให้สอดคล้องกับความนิยมในการติดแท็กทั้งบน Twitter และ TikTok และยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยลูกเล่นสีต่างๆ บนแต่ละแฮชแท็ก ซึ่งจะได้ผลด้านยอด reach มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องลองทำกันเอาเอง