อย่างที่เราเห็นกันว่าโลกเราทุกวันนี้มีการพัฒนาให้เข้ากับเทคโนโลยีกันมากขึ้น ทั้งนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้การ และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จากในอดีตที่เวลาที่เราจะทำการซื้อขายนั้นเราจะต้องใช้สิ่งที่มีมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นเงินตรา ทอง หรืออะไรก็ตามเพื่อใช้แลกเปลี่ยนสินค้า แถมหากเก็บเงินไว้ในธนาคารก็ต้องอาศัยไปฝากถอนถึงที่ธนาคารหรือกดจากตู้ แต่ทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงการชำระเงินง่าย ๆ เลยทีเดียว
แน่นอนว่าอีกอย่างที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือการซื้อขายแบบออนไลน์ จน Ecommerce นั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังจะเติบโตมากขึ้นอีกจากทั้งความก้าวหน้าของโลกเราตลอดจนการระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้คนไม่ออกเดินทางไปไหนเพราะความเสี่ยง
ซึ่งในตอนนี้ ทางฝั่ง Apple ก็กำลังทำการขยายระบบการชำระเงินด้วย Apple Pay และตอนนี้ Facebook ก็ต้องการขยายขอบเขตการชำระเงินด้วยการทำให้ Facebook Pay ใช้งานได้ในรูปแบบการชำระเงินในเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Facebook ด้วยค่ะ
ข้อดีของการเปิดใช้ Facebook Pay
- ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินได้อย่างง่ายในขั้นตอนเดียว
- ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกรอกรายละเอียดอะไรซ้ำ
- ช่วยให้เว็บไซต์ของผู้ขายมีโอกาสการเข้าถึงได้มากขึ้น
- ผู้ขายสามารถทำการตลาดได้ทั้งใน Facebook และเว็บไซต์ของพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน ทำให้โอกาสการเข้าถึงนั้นมากขึ้น
ทำไม Website อื่นถึงควรใช้ Facebook Pay ?
พูดกันตรง ๆ เลย Facebook นั้นเป็นอีกหนึ่งแหล่งโซเชียลที่ได้รับความนิยมมากทั่วโลก ดังนั้นถ้าหาหเราทำการโปรโมท Website ผ่านทาง Facebook หรือระบุว่าสามารถชำระเงินผ่าน Facebook ได้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างลูกค้าได้มากขึ้นค่ะ
และหากผู้ใช้เคยชินกับการชำระเงินผ่าน Facebook Pay ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ก็จะทำให้มีแนวโน้มที่จะซื้อผ่าน Facebook และ Instagram เช่นเดียวกัน ซึ่งจะช่วยในการผลักดันให้ Facebook โพสต์ทั้งหมดสามารถซื้อได้ด้วยค่ะ
เปิดให้ลองใช้ตอนไหน ?
ทาง Facebook จะเปิดให้ทดลองใช้งานตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ ธุรกิจในสหรัฐอเมริกาที่เข้าร่วมจะสามารถเปิดใช้งาน Facebook Pay เป็นตัวเลือกการชำระเงินได้โดยตรงบนเว็บไซต์ ทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลการชำระเงินอีกครั้ง ซึ่งทาง Facebook กำลังเริ่มเปิดตัวกับผู้ขายของ Shopify และคาดว่าจะขยายความพร้อมใช้งานด้วยแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการชำระเงินมากขึ้นแน่นอนในอนาคตอันใกล้ค่ะ
ส่วนทางประเทศไทยของเราคงจะต้องรอประกาศกันอีกครั้งก่อนนะคะ เพราะโดยปกติจะรอประมาณ 3 เดือนหลังจากทดลองใช้ในเขตประเทศอื่นค่ะ
