เรียกว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาแฟนหนัง เพราะเพียงแค่สัปดาห์เดียวแต่มีหนังฟอร์มยักษ์ถึง 2 เรื่อง 2 แนว เข้าฉายพร้อมกัน คือ Oppenheimer หนังชีวประวัตินักฟิสิกส์ผู้สร้างระเบิดปรมาณู
ของผู้กำกับ Christopher Nolan และ Barbie หนังฉบับคนแสดงของของเล่นชื่อก้องโลก จากผู้กำกับ Greta Gerwi แต่เดี๋ยวก่อนวันนี้ Ensure ไม่ได้มาชวนดูหนัง แต่จะขอชวนทุกคนมาคุยกันหน่อยว่า ทำหม้ายทำไมเพราะอะไรหนังส่วนใหญ่ถึงชอบเข้าวันพฤหัสฯ กัน?
มาเริ่มกันที่สาเหตุทำไมต้องวันพฤหัสฯ จากการไปสืบค้นก็พบว่าจริง ๆ แล้วตั้งแต่แรกหนังส่วนใหญ่เขาไม่ได้นิยมเข้ากันในวันพฤหัสบดีกันเสียทีเดียว แต่มักจะเข้าฉายใน “วันศุกร์” พร้อม ๆ กับทางฮอลลีวูดที่มักจะมีโปรแกรมหนังเข้าใหม่ในวันศุกร์เช่นเดียวกัน
แต่แน่นอนด้วยความที่ตลาดบ้านเรากับทางสหรัฐขนาดมันต่างกัน โรงฉายหนังในไทยเลยเลือกที่จะนับ “รายได้” ตั้งแต่ 3 วันแรก คือวันศุกร์ วันเสาร์ แล้วก็วันอาทิตย์ เพื่อมาจัดโปรแกรมการฉายรอบใหม่ในสัปดาห์ต่อไป ถ้าเรื่องไหนคนดูเยอะก็เพิ่มรอบ เรื่องไหนคนดูน้อยก็ลดรอบ พอเป็นแบบนี้เลยเริ่มมีแนวความคิดที่ปรับวันฉายของหนังใหม่มาเป็น “วันพฤหัสบดี” แทน เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสทำเงินให้กับหนังมากขึ้น
ซึ่งจริง ๆ แม้จะย้ายมาจากวันศุกร์ที่เป็นช่วงต้นสุดสัปดาห์ มาเป็นวันพฤหัสบดีที่มันค่อนข้างจะเป็นวันกลางสัปดาห์ก็ไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้น เพราะถ้าลองมาดูกันจริง ๆ วันพฤหัสบดีมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้จะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมคนดูไปบ้าง แต่อย่างน้อยการที่หนังเข้าต้องแต่วันพฤหัสฯ มันก็เป็นการเปิดช่องให้คนส่วนใหญ่ได้วางแผนเตรียมตัวมาดูหนังในช่วงสุดสัปดาห์
อีกเรื่องหนึ่งก็เรื่องของ “จังหวะ” ที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน การที่คุณหยิบเอาหนังสองเรื่องที่คนสนใจมาฉายในวันเดียวกันย่อมเป็นกระแส แม้จะคิดได้ว่ามาฉายวันเดียวกันแบบนี้จะไม่แย่งลูกค้ากันหรอ แต่หนังมันก็ไม่ได้ฉายแค่วันเดียวจบ การทำแบบนี้เลยช่วยเสริมในเรื่องของการโปรโมทหนังไปอีกทาง
ซึ่งนอกจากวันฉายของหนังสองเรื่องที่ตรงกันแล้ว ทั้งสองเรื่องยังมีจุดเชื่อมโยงกันทางประวัติศาสตร์ในแบบที่จะโยงมันก็พอจะโยงกันได้อีกด้วย เพราะถ้าเราย้อนไปดูที่จุดกำเนิดของทั้ง Barbie ที่บริษัท Mattel ผู้ให้กำเนิดตุ๊กตาบาร์บี้ ก็ก่อตั้งใน “ปี 1945” ปีเดียวกับที่ระเบิดปรมาณูของ Oppenheimer ถูกทิ้งที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 200,000 คน
แม้วันนี้จะมาชวนคุยเรื่องเกี่ยวกับ “หนัง” แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีเกร็ดเล็ก ๆ ให้พูดถึงในแง่การตลาดกันอยู่บ้างหวังว่าจะชอบกัน สุดท้ายนี้ถ้าช่วงสุดสัปดาห์ใครยังไม่มีโปรแกรมอะไรทำ ก็แนะนำให้ไปดูหนังทั้งสองเรื่องเลย น่าจะยังอยู่ในโปรแกรมฉายอยู่ จริง ๆ นอกจากเรื่องหนังเข้าวันพฤหัสฯ แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งระยะเวลาการยืนโรงของหนัง หรือโปรโมชั่นดูหนังวันพุธ ถ้ามีโอกาสเหมาะ ๆ ไว้คราวหน้า Ensure จะมาเล่าให้ฟังอีกแน่นอน