การจะเป็นของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติส่วนบุคคลและวิธีดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมีร่วมกัน โดยคุณสมบัติเหล่านี้มีอยู่ทั้งในหลักการก่อตั้งธุรกิจไปจนถึงการปฏิบัติงานในแต่ละวัน รวมถึงการมีเทคนิคหรือข้อคิดดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ วันนี้เรามีข้อคิดที่เจ้าของธุรกิจต้องกล้าที่จะลองทำข้อคิดนี้อาจจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้น 1. คุณควรยอมรับว่าตัวเองไม่เก่งเก่งสู้พนักงานของคุณไม่ได้ แต่คุณต้องรู้ว่าใครเก่ง 2. คุณควรยอมรับว่าลูกน้องดีกว่าปล่อยให้เงินก้อนและเงินก้อนให้กับตัวเองเพราะคุณเป็นคนเล่นเก่งกว่าที่คุณทำงานแต่ยากที่จะทำลายตัวเองพนักงานที่เก่งจะเถียงคุณเก่งมาก ไง 3. เมื่อคุณทำผิดประกาศอย่างเปิดเผยว่าทำผิดให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วยและแสดงให้พนักงานเห็นว่าคุณเป็นคนธรรมดาที่ทำผิดพลาดได้พนักงานทำผิดก็จะกล้าบอกให้ทีมงานเรียนรู้และจะได้รับ ไม่ทำผิดซ้ำ 4. ไม่ทำตัวเป็นเทวดาชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการรับโบนัสตามที่ตัวเองต้องทำชัดเจนได้รับการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วนได้รับการประกาศให้ทราบแล้ว 5. ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำของพนักงานขับรถที่ต้องใช้ความสะอาดเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับการทดลองตั้งแต่วันแรก 6. ส่งเสริมพนักงานที่เป็นคนดีที่รักลูกโซ่เรียนรู้มากมายหรือดูงานที่เมืองนอกเป็นวิธีที่จะทำให้องค์กรเติบโตขึ้นเมื่อมีคนเก่ง ๆ ในองกรค์ 7. ถ้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพนักงานหรือรับพนักงานใหม่เพราะการรับพนักงานใหม่นั้นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้งาน 8. กระบวนการและเอกสารที่มากมายใน บริษัท เกิดจากที่คุณไม่ได้รับความไว้วางใจพนักงานจำนวนมากได้รับเอกสารจำนวนมากมาแล้วไม่ต้องใจร้อนโครงสร้างที่ให้เค้าเป็นหัวหน้างานและกฎระเบียบที่มีมากมายบางคนทำไม่ได้ กฎระเบียบที่ทำให้คนดีทำงานได้ยากขึ้นเช่นมีคนขโมยกลับบ้านก็จะออกกฎหรือหาวิธีที่จะใช้งานได้ดีขึ้น
เราอาจจะเป็นหนึ่งคนที่ต้องการเป็นคนฉลาด สมองดี มีIQ และหลาย ๆ คนคงปรารถนาเช่นกัน แม้โปรแกรมการฝึกสมองที่จะช่วยเป็นทางเลือกในการเพิ่มไอคิว สมาธิ และความคิดสร้างสรรค์แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ยังมีการฝึกสมองที่ไม่ต้องเสียเงินและทำให้เราฉลาดขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย ความสำคัญของการฝึกสมอง พื้นฐานสำคัญในสมองคือเซลล์ประสาทเราสามารถพัฒนาพลังและสติปัญญาของสมองได้โดยการฝึก เรียนรู้ด้วยการสอน วิธี นำแนวคิดมาแยกเป็นส่วน ๆ (วิเคราะห์) จากนั้นก็นำกลับมาปะติดปะต่อกัน (สังเคราะห์) หาวิธีสอนแนวคิดดังกล่าว เช่น ผ่านช่องทางออนไลน์หรือสถานที่ต่าง ๆ ใช้เครื่องมือพัฒนาการคิดเชิงระบบเพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์รวมทั้งสอนแนวคิดดังกล่าวด้วย เรียนรู้ด้วยการเขียน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนทั่วไปหรือหัวข้อใหม่ ๆ วิธี เริ่มต้นเขียนในบล็อกต่าง ๆ (เช่น Lifehack.org) หรือของตัวเอง นำแนวคิดมาแยกเป็นส่วน ๆ (วิเคราะห์) จากนั้นก็นำกลับมาปะติดปะต่อกัน (สังเคราะห์) เขียนเนื้อหาที่คุณกำลังเรียนรู้และรอผลตอบรับหลังจากที่ผลงานได้เผยแพร่ออกไปแล้ว ออกกำลังกาย ออกกำลังกายจะช่วยทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงและมีการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ในสมองรวมทั้งเพิ่มปริมาณสาร BDNF ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ด้วย ฟังหนังสือเสียง คุณสามารถฟังหนังสือเสียงขณะออกกำลังกาย ขับรถ ตัดหญ้า ทำงานบ้าน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน รู้จักอ่านอย่างชาญฉลาด […]
หลักสูตรที่เรียบง่ายเพื่อหยุดความรู้สึกที่ติดอยู่ในชีวิต บางครั้งชีวิตคนเราก็เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกาซึ่งเราอาจต้องอาศัยกลยุทธ์และความคิดที่เป็นระบบระเบียบ เมื่อเราเจออุปสรรคที่เปลี่ยนแปลงชีวิตทำให้เราต้องก้าวไปสู่ความแตกต่างอาจทำให้เราจำเป็นต้องมีกลยุทธ์และเป็นระบบมากขึ้น แต่สุดท้ายเราจะหาทางออกและวิธีแก้ปัญหาได้ เพียงเริ่มจากการเปลี่ยนแนวคิดและการกระทำของตัวเอง ความเป็นจริง ทุกอย่างบนโลกนี้ใช่ว่าจะดี เราไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรือหลีกเลี่ยงความจริง จริงอยู่เราอาจทำผิดพลาดหรือตัดสินใจล้มเหลวและบกพร่องต่อหน้าที่การงาน แต่เราก็ต้องซื่อสัตย์ต่อตนเองและก้าวเดินต่อไปให้ได้ แตกต่าง บางทีเราอาจทำอะไรซ้ำซากจำเจ ไปสถานที่เดิม ๆ และอยู่ในวงอโคจรเก่าๆ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราในการเลือกทางเดินใหม่แล้วเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นและเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง! สิ่งที่คุณถนัดจริง ๆ เราอาจต้องเปลี่ยนแนวคิดและกลับไปยังสิ่งที่เราถวิลหามาโดยตลอด เมื่อเราพบความฝันนั้นแล้วก็ควรตัดสินใจ การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นกระบวนการที่ล่าช้าแต่การทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่องทุกวันจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มขั้น คำถามที่ใช่ คำถามที่ใช่จะนำไปสู่คำตอบที่ถูกต้องและพาเราไปยังเส้นทางที่มีความสุขและประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม ส่งเสริมพลังจิตของเรา ความคิดของเราจะนำทางไปสู่ชีวิตที่ดี ฉะนั้นอย่าบ่นว่าชีวิตของเราเลวร้าย อย่าลืมว่าทุกปัญหามีทางออก หากเราล้มเหลวในเรื่องหน้าที่การงานเราก็อาจต้องฝึกฝนทักษะใหม่ๆ หากเรามีเงินไม่พอในการสร้างชีวิตก็ควรมองหางานหรือเรียนรู้อย่างอื่นเพิ่มเติม หาที่ปรึกษา ใครสักคนที่จะช่วยนำทางและทำฝันของเราให้กลายเป็นจริง การมีที่ปรึกษาอยู่เคียงข้างจะทำให้เรารู้สึกมีแรงบันดาลใจและพลังที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ มีความรับผิดชอบ การเอาแต่บ่นหรือโทษคนอื่นมีแต่จะทำให้เราย่ำอยู่กับที่ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ที่สำคัญเราควรมองโลกในแง่บวก รู้จักตัวเอง การรู้จักตัวเองจะช่วยให้เราชนะศึกสงครามได้นับพันครั้งและทำให้เราพบสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ด้วย เมื่อเรารู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร และกำลังจะไปไหนก็รับรองว่าไม่มีใครสามารถหยุดหรือยับยั้งเราได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจงศึกษาตัวเอง ยอมรับบทบาทของตัวเองในสถานการณ์ต่าง ๆ และดูว่าคุณจะพิชิตอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาได้อย่างไร ควบคุมชีวิตของตัวเอง ชีวิตของเราก็คือความรับผิดชอบของเรา เราคือคนกุมบังเหียนทั้งหมดและเป็นผู้ควบคุมการตัดสินใจแม้กระทั่งเหตุการณ์หรือการกระทำของคนอื่น ๆ ด้วย แน่นอนว่าเส้นทางย่อมไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบแต่เราก็ควรมีปรัชญาหรือคตินิยมที่จะนำทางเราไปข้างหน้า แม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมปัจจัยอื่น ๆ […]
ว่ากันว่า รอบยิ้มคือที่มาของความสุข ? ลองมองไปรอบตัวเวลาที่เรายิ้ม คนรอบข้างเรามักจะยิ้มและมีความสุขไปพร้อมกับเรา แล้ววันนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ? มีความสุข เศร้า หงุดหงิด เหงา อารมณ์ต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบต่อคนเราได้ทุกนาที เมื่อเรารู้สึกเครียดกับการทำงาน ที่ทำงานก็อาจจะทำให้มีแนวโน้มว่าเราจะผิดพลาดได้และจากนั้นอาจทำให้เราคิดอะไรไม่ออก เมื่อเราหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผลและเมื่อเราโกรธใครสักคนก็อาจจะทำไม่ดีต่อคนอื่น หรือหยาบคาบใส่ ดังนั้นอย่าปล่อยให้อารมณ์ทำลายสิ่งดี ๆ สังเกตุไหมว่าเวลาที่เราต้องเสียเงินโดยไม่ใช่เหตุ มักทำให้เราอารมณ์เสีย ซึ่งอารมณ์นั้นมีส่วนสัมพันธ์กับการใช้จ่ายเงิน คนเรามักจะให้ความสำคัญกับเงินเป็นอย่างมาก เมื่อมีเงินน้อยคนเรามักจะปรับเปลี่ยนวิธีใช้จ่ายให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับอารมณ์คุณควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองและยอมรับว่าทำไมเราต้องรู้สึกแบบนั้นเพื่อปรับตัวและจัดการกับอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม 3 ปัจจัยที่ทำให้อารมณ์ดีได้ทุกวัน 1.อารมณ์โดยทั่วไปในวันนั้น 2.เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน 3.ความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของคุณกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสามารถสังเกตตัวเราเองได้ว่าอารมณ์ของตัวเองผันผวนและแตกต่างกันในระหว่างวัน นั่นเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่สำคัญเราเป็นแค่มนุษย์ปุถุชนซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาการควบคุมเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ ดังนั้นเราควนทำความเข้าใจให้ดีก่อนและอย่าลืมว่าไม่มีใครหรอกที่สามารถทำอารมณ์ให้ดีได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลนี้เราไม่ควรกดดันตัวเอง หลังจากที่เริ่มจดบันทึกอารมณ์ของตัวเองและเหตุการณ์ต่าง ๆ เราก็จะเริ่มสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเหล่านั้น เราจะเข้าใจว่าสิ่งใดทำให้คุณมีความสุข วิตกกังวล หรือเศร้า เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน เราสามารถใช้แอปพลิเคชัน Daylio เพื่อช่วยทำให้เรามองเห็นความสัมพันธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้สภาพอากาศที่เลวร้ายจะทำให้คุณรู้สึกเศร้าและปัจจุบันคุณก็ยังรู้สึกเศร้าอยู่ แต่อย่างน้อยคุณก็รู้แล้วว่าจะทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้นได้อย่างไร […]
เช้าของทุก ๆ วันที่ต้องตื่นมาทำงาน เรากำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกทั้งเหนื่อย และ เมื่อยล้า มาทั้งอาทิตย์จากการทำงาน แต่เราจำเป็นต้องลุก ลุกขึ้นและเริ่มทำตามรายการที่ต้องทำ แต่เรายังรู้สึกขี้เกียจยังรู้สึกยังไม่จะทำอะไรนอกจากนอน ทำอย่างไรให้เลิกขี้เกียจ เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เรา กำหนดเวลาของสิ่งที่ต้องทำ บางครั้งการจดบันทึกอย่างเดียวก็ไม่ทำให้เราหายขี้เกียจได้แต่หากต้องลงมือปฏิบัติจริง และการที่กำหนดเวลาจะทำให้งานเป็นรูป เป็นร่างได้ง่านขึ้นและช่วยกระตุ้นให้คุณเริ่มลงมือทำจริง ๆ ลุกออกจากเตียงทันที สำหรับเราการลุกออกจากเตียงในตอนเช้าถือเป็นเรื่องยากที่สุด เพราะบางครั้งเราก็แค่อยากจะนอนต่อ แต่อย่างไรก็ตามการลุกออกจากเตียงทันทีที่ลืมตาตื่นจะทำให้เรารู้สึกกระตือรือร้นและพร้อมสำหรับวันใหม่มากขึ้น ฟังเพลงแนวปลุกใจให้กระฉับกระเฉง การฟังเพลงช้า เพลงเศร้า อาจจะทำให้เราช้า หรือ เศร้า เพราะอินกับเพลงมากเกินไป ฉะนั้นแนะนำว่าให้ฟังเพลงสนุก ๆ จะช่วยฆ่าเวลาและทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ไม่น่าเบื่อ แบ่งงานใหญ่ให้เป็นขั้นตอนย่อย ๆ การแบ่งงานใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดบ้านให้เป็นขั้นตอนย่อย ๆ เพื่อให้งานดูบนและเสร็จเร็วขึ้น ขึ้นตอนแรกก่อนเริ่มทำความสะอาดบ้าน เราต้องนำเสื้อผ้าไปซักระหว่างที่รอ เราก็สามารถทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ของบ้านรอ อย่างล้างจาน เป็นต้น ลงมือทำ ! การลงมือทำเท่านั้นที่จะทำให้เราหายขี้เกียจ และเราก็ต้องลงมือทำด้วยความรู้สึกอยากทำ อย่างไรก็ตามการทำงานก็เป็นหนึ่งความรู้สึกที่ดีที่สุดเมื่อเราทำงานเสร็จเราก็ยังมีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ […]
หลักจิตวิทยาที่เราควรทำความเข้าใจ เพื่อการเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น การค้นคว้าแสดงให้เห็นว่าผู้คนมักจะเชื่อว่าตัวเองมีความพิเศษ ใช้ความคิดของตัวเองในการตัดสินน้อยกว่าและมีจุดมุ่งหมายมากกว่าคนอื่นทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ก็ตาม เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของกระบวนการ เราต้องสามารถควบคุมมันได้ 1. เมื่อคนเราวิจารณ์ผู้อื่น พวกเขาก็มักจะบรรยายถึงตัวเองด้วย ถ้าคุณต้องรักตัวเองก่อนจึงจะสามารถรักผู้อื่นได้เป็นเรื่องจริง ก็น่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับความพอใจในตนเองได้เช่นกัน หากคุณรักคนอื่นในสิ่งที่คุณรักในตัวเองคุณเกลียดคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ในตัวคุณ คุณเห็นผู้อื่นว่ามีค่าพอในชีวิตของคุณ แต่คุณไม่มองคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่มี ไม่รักในตัวคุณ การมองผู้อื่นในแง่บวกสามารถบอกได้ว่าคุณพอใจในตนเองและชีวิตของตัวเองมากแค่ไหน รวมถึงคนอื่นชอบคุณมากแค่ไหนด้วย 2. เมื่อคนเรามั่นใจในสิ่งที่ตนเองเข้าใจก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะกล้าออกความเห็นมากขึ้น การศึกษาทางจิตวิทยาทางการเมืองพบว่าความสามารถในการอดทนมีความสัมพันธ์กับความรู้สึกของการถูกคุกคาม เหตุผลที่คนมีความเปิดกว้างมากขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับมุมมองของฝ่ายตรงข้าม โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามีความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถโต้แย้งมุมมองของตนเองและเปิดรับฟังผู้อื่น ผู้ที่มั่นใจในความรู้ของตัวเองจะกล้าสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าจะสามารถปกป้องมุมมองของตัวเองได้ ส่วนผู้ที่ไม่มั่นใจในความรู้ด้านการเมืองของตัวเองก็จะปิดปากเงียบต่อไป 3. ว่ากันว่าความสุขจะมาเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่การศึกษาเผยว่าจริง ๆ แล้วความสุขนั้นอยู่ได้นานเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่าความสุขจะค่อย ๆ ลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไปเช่นกัน ความสุขร้อยละ 40 เกิดจากกิจกรรมที่เราเลือกจะมีส่วนร่วม สิ่งต่าง ๆ ที่เราทำและคิดในแต่ละวัน ที่สำคัญการศึกษายังเผยอีกว่าความสุขจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนเราแก่ตัวลง 4. ว่ากันว่าความรู้สึกกลัวจะเด่นชัดกว่าความรู้สึกที่เป็นกลางหรือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ หรือการคิดบวก คนเรามักจะรู้สึกวิตกกังวลมากกว่ารู้สึกซาบซึ้งใจ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์จะคอยสอดส่องและระวังสิ่งที่เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ของตัวเอง ข่าวดีคือเมื่อรู้ตัวแล้วคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงแนวความคิดดังกล่าวและสามารถใช้เหตุผลเพื่อทำความเข้าใจได้ 5. ผู้คนมักจะมองว่าความผิดของตัวเองสามารถให้อภัยได้และตัวเองมีความพิเศษมากกว่าผู้อื่น หากคนอื่นประสบความสำเร็จคุณอาจหาคำอธิบายว่าทำไม แต่เมื่อคุณประสบความสำเร็จคุณก็จะให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความสามารถหรือความอุตสาหะ หากคนอื่นตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากคุณก็อาจแนะว่าพวกเขาควรพยายามมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นคุณบ้างคุณก็จะบอกว่าคนอื่น ๆ […]
ลืมการทำงาน 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นไปเลย !! การวิจัยแนะว่ามีตัวอย่างการใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงในทำงานเท่านั้น ในยุคที่คนทำงาน ทุกคนต่างพาตัวเองเข้ามาที่ทำงานตั้งแต่เช้า 9 โมง และทำงานจนถึง 5 โมงเย็นก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน และเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอดวันจันทร์ถึงศุกร์ การอยู่ที่ทำงานเป็นเวลา 8 ชั่วโมงนั้นทำให้เราเห็นทั้งเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในตลอด 8 ชั่วโมงที่คนเราทำงานค่าเฉลี่ยของคนทำงานมักจะอยู่ราว ๆ 3 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง 53 นาที โดยเวลาที่เหลือพนักงานออฟฟิศชาวอังกฤษ 1989 คน ในปี 2016 พบว่าส่วนมากผู้คนใช้เวลาที่เหลืออ่านข่าว เข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงกินข้าว พูดคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน หรือ สูบบุหรี่เพื่อพัก รวมไปถึงการหางานใหม่ และการวิจัยก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่าชั่วโมงทำงานอันยาวนาน ยากที่จะหาผลลัพธ์ที่ดีได้ ในวิจัยพบว่าคนเราสามารถเพ่งสมาธิไปกับงานได้แค่ […]
คงไม่ดีนักถ้าต้องเสียพนักงานที่ตั้งใจทำงานเพราะพวกเขารู้สึกว่าบริษัทไม่ใส่ใจ กลับกันถ้าบริษัทไม่ละเลยความรู้สึกของพนักงาน ก็จะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นสำคัญ อยากจะอยู่กับองค์กรต่อไป และทำงานให้ดีขึ้น 1. ให้โอกาสพิเศษ กับ ของ Limited Edition สิ่งตอบแทนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขององค์กร รวมไปถึงการให้คนในองค์กรได้ใช้เวลาร่วมกัน เช่น ให้พนักงานมีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกับผู้บริหาร หรือให้พนักงานระดับหัวหน้ามาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับพนักงานรุ่นใหม่ ๆ 2. สนับสนุนให้เขาเติบโต ด้วยวิธีเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้พนักงานมีโอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ไว้ในบริษัท รวมไปถึงการจัดฝึกอบรม หรือสัมมนาเพื่อให้พนักงานได้เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ 3. ตอบแทนที่ทำงานอย่างคุ้มค่า ด้วยสิ่งมีค่าอย่าง “เวลา” ปรับเปลี่ยนเวลาในการทำงาน เช่น เพิ่มเวลาพักกลางวัน ให้พนักงานเลิกงานเร็วกว่าปกติ หรือเพิ่มจำนวนวันหยุดประจำปีให้กับพนักงาน เพราะการที่พนักงานมีเวลาทำในสิ่งที่เขาสนใจมากขึ้นนั้นสามารถสร้างแรงจูงใจให้พวกเขาได้ 4. ให้สวัสดิการหรือสิทธิ์ที่ทำให้พนักงานรู้สึกพิเศษ มีสวัสดิการหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ให้กับพนักงาน เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการ เป็นสมาชิกฟิตเนส หรือมีการจัดทริปท่องเที่ยวประจำปีให้กับพนักงาน ขอบคุณข้อมูล : bonus.ly
บริหารเวลาด้วย Eisenhower Box วิธีการง่าย ๆ ในการใช้ Eisenhower Box (หรือเรียกว่า Eisenhower Method หรือ Eisenhower Metrix) – งานสำคัญและด่วน เป็นงานที่ต้องทำทันที ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาใหญ่ งานช่องนี้เราต้องให้ความสำคัญลำดับแรก – งานสำคัญแต่ไม่ด่วน เป็นงานที่สำคัญก็จริง แต่เก็บไว้ทำทีหลังได้เพราะไม่ได้ด่วนอะไร แต่อย่าเผลอทิ้งไว้จนลืมทำนะ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นงานสำคัญและด่วนแทน – งานไม่สำคัญแต่ด่วน เป็นงานที่ให้คนอื่นทำแทนก็ได้ แต่ถ้าฝากให้ทำไม่ได้ก็ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ – งานไม่สำคัญและไม่ด่วน เป็นงานที่ควรทำในเวลาว่างจากทุกอย่างแล้ว ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียกับงานอื่น ๆ
6 วิธีป้องกันเชื้อหวัดแพร่กระจายในที่ทำงาน 1. ปิดปากตัวเองเวลาไอ หรือจาม ด้วยข้อศอก ไม่ใช่มือ เพราะหากไอ หรือจามใส่มือ แล้วใช้มือจับสิ่งของต่างๆ อย่างลูกบิดประตู คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ร่วมกัน เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องกดน้ำ ก๊อกน้ำ ฯลฯ อาจเป็นการแพร่เชื้อหวัดไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว 2. ลดการพบปะพูดคุยกับผู้อื่นในระยะใกล้ หรือหากงดการอยู่กับคนอื่นในพื้นที่จำกัดอย่างในห้องประชุมเล็กๆ เป็นเวลานานได้ก็จะดี 3. งดการจับมือทักทายกับผู้อื่น หากไม่จำเป็น 4. พกกระดาษทิชชูเปียกที่มีสารฆ่าเชื้อโรค หรือเจลล้างมือตลอดเวลา เริ่มไอเริ่มจามเมื่อไร ก็ให้รีบเช็ดทันที หรือถ้าจาม หรือไอใส่สิ่งของ เช่น คีย์บอร์ด หน้าจอคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ก็ควรรีบเช็ด 5. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา 6. อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลา ห้ามขาดยาเด็ดขาด สิ่งสำคัญคือระหว่างที่กำลังป่วย ควรงดกิจกรรมที่ต้องอยู่ร่วมกับคนเยอะๆนะคะ พยายามไม่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย ถือว่าเป็นการกระทำที่เราพึงปฏิบัติ