พฤติกรรมที่จะช่วยพัฒนาชีวิตคุณให้ดีขึ้น

มีไม่กี่คนที่จะสามารถนำความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มาต่อยอดให้ความคิดนั้นให้สำเร็จได้ และหนึ่งในคุณสมบัติที่แยกคนที่ประสบความสำเร็จออกจากคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็คือ “ความสามารถและความเต็มใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ” แต่นั่นไม่ใช่นิสัยเดียวที่แยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้ แท้จริงแล้วมีพฤติกรรมมากมายที่คุณทำอย่างสม่ำเสมอ มันจะมีส่วนช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ และ “ความต่อเนื่อง” นี้ที่สำคัญไม่น้อยเลย เหมือนการที่คุณออกกำลังกาย หากคุณปฏิบัติไม่เป็นประจำคุณก็จะไม่มีทางแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นได้ ซึ่งการพัฒนาทักษะก็ไม่ต่างกัน สัญญากับตัวเอง เมื่อคุณสัญญากับคนอื่น ๆ ไว้แล้ว โอกาสที่คุณจะรักษาคำสัญญานั้นเพราะชื่อเสียงของคุณและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบุคคลนั้น ๆ แล้วเวลาคุณให้คำมั่นสัญญากับตัวเองล่ะ ? แน่นอนว่าการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนเองย่อมทำได้ยากกว่าการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อื่น การตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเองล้วนช่วยเพิ่มความมีศักยภาพและความมั่นใจในตัวคุณได้ หากคุณอยากรู้สึกว่าไม่มีอะไรหยุดยั้งคุณได้ ให้ลองเริ่มต้นจากการให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง มันจะช่วยให้คุณเป็นคนที่แกร่งขึ้นก็ได้ จดบันทึกความคิดของคุณทันที ส่วนใหญ่แล้วความคิดดี ๆ มักจะลอยผ่านเข้ามาในหัวของเราเหมือนปุยนุ่นก้อนใหญ่ที่สามารถหายไปได้อย่างง่ายดาย และไม่มีอะไรที่น่าปวดใจไปกว่าการพยายามนึกถึงไอเดียนั้นที่ได้ลอยหายไปจากความทรงจำและพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เพราะฉะนั้นหากมีไอเดียหรือแรงบันดาลใจดี ๆ แวบเข้ามาในหัว คุณต้องรีบจดบันทึกมันไว้ทันที จะเป็นการอัดเสียง หรือจะเขียนคีย์เวิร์คที่จะทำให้คุณจำได้เมื่อไรก็ตามที่อ่านมันก็ได้ พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การสร้างความท้าทายให้กับตัวเองนั้นจะช่วยให้คุณเป็นคนที่ปรับตัวเก่ง สิ่งที่คุณเลือก จะเป็นตัวกำหนดตัวคุณในวันนี้และตัวคุณในวันข้างหน้า การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งเพียงอย่างเดียว นอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว ยังต้องมีสุขภาพจิตและสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีด้วย ซึ่งจะมาช่วยทำให้ชีวิตคุณเกิดความสมดุลและเป็นคนที่เพียบพร้อมรอบด้านยิ่งขึ้น เราทุกคนล้วนอาจเคยเจอกับคนที่ฉลาดหลักแหลมมากแต่กลับมีปัญหาทางด้านการเข้าสังคม ดังนั้นคุณจึงควรพัฒนาทักษะทุก ๆ ด้านของตัวเองในทุกครั้งที่คุณมีโอกาส ด้านไหนที่แย่ลงพัฒนาด้านนั้นเพิ่ม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีแก่ตัวคุณเอง แล้วคุณจะมีความสุขและความสำเร็จในชีวิตยิ่งขึ้นไปอีก

เปลี่ยน Mindset เพื่อพัฒนาตนเอง

Mindset มีความหมายว่า “ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม” และหลายคนคงได้ยินคำนี้มาใช้กันบ่อย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จจะมี Mindset ที่แตกต่างจากคนทั่วไป Mindset ของคนประสบความสำเร็จคือแบบ Growth Mindset หรือที่เรียกว่า กรอบแนวคิดแบบเปิดกว้าง สามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้อยู่เสมอ ซึ่งแตกต่างจากคนส่วนมากที่จะมี Mindset แบบกรอบความคิดแบบปิดตาย จะเชื่อว่าทักษะตัวเองมีขีดจำกัด และนี่คือวิธีที่เราจะมาแนะนำ เพื่อปรับ Mindset ทำความเข้าใจ Mindset ที่มีอยู่ในตัวคุณ คุณต้องรู้และเข้าใจ Mindset ของคุณว่าเป็นแบบไหน ถ้าให้ Mindset เป็นคนอีกคนที่อยู่ในความคิดของคุณ เขาคิดอะไรอยู่ ? เช่น ถ้าเจอสิ่งที่ท้าทาย Mindset ของเขาจะพูดกับเราว่า “จะทำได้จริงเหรอ” “ถ้าทำผิดมาอายนะ” “เราทำไม่ได้แน่เลย” “คงทำไม่ได้หรอก” สังเกต คำถามพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นในความคิดคุณบ่อย ๆ คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่มีกรอบความคิดแบบปิดตาย จะทำให้ไม่กล้าพัฒนาตัวเอง และมันอาจทำให้สิ่งที่คุณทำอยู่ถึงทางตันได้ง่าย ๆ เลย หรือคุณอาจจะไม่มีความสุขที่จะทำสิ่งนี้อีกต่อไปเลยก็ได้ เริ่มลงมือทำ สิ่งสำคัญของการที่คุณจะปรับเปลี่ยน Mindset […]

เคล็ดลับการเป็นผู้นำที่ดี

หากจะพูดถึงการสร้างความรู้สึกประทับใจเมื่อพบกันครั้งแรก หรือ first impression นั้น ขึ้นอยู่กับการแสดงออกในความเป็นตัวเองของเรา และนั่นถือเป็นการแสดงให้โลกรู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร ดังนั้น การมีภาพลักษณ์ที่ดีก็ถือเป็นกุญแจสำคัญ การปลูกฝังให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ในการเป็นผู้บริหารที่ดีจะทำให้คุณสามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่คุณต้องพบเจอ แถมยังช่วยในเรื่องการบริหารจัดการให้กับตัวคุณเองอีกด้วย และการฝึกฝนทักษะนี้สามารถช่วยให้ผู้นำในทุกระดับประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนโลกธุรกิจอีกด้วย และนี่คือ 5 เคล็ดลับที่สามารถช่วยให้คุณพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้น 1 พัฒนา EQ อยู่ตลอด ความฉลาดทางอารมณ์หรือที่เราเรียกง่าย ๆ ว่า EQ นั้น คือทักษะการแสดงออกทางความรู้สึกและอารมณ์ รวมไปถึงการแสดงออกที่มีผลต่ออารมณ์ของผู้อื่นด้วย ในองค์กรที่มีผู้นำ EQ สูงจะช่วยให้บรรยากาศการทำงานของลูกน้องผ่อนคลายมากขึ้นเพราะพวกเขาจะรู้วิธีแสดงออกเพื่อให้ลูกน้องไม่เครียดเกินไป หรือเกร็งเกินไป วิธีที่จะช่วยฝึกฝนพัฒนา EQ ของคุณก็คือ พยายามรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวคุณเอง สังเกตตัวเองว่าเมื่อคุณอยู่ในอารมณ์ต่าง ๆ คุณแสดงออกมาแบบไหน หรือจะเริ่มจากการฝึกทำสมาธิเพื่อทำจิตใจให้สงบก็ช่วยได้ด้วย 2 รู้จักการใช้โทนเสียง ผู้นำที่รู้จักการใช้โทนเสียงอย่างมีประสิทธิภาพก็เปรียบเสมือนนักแสดงโชว์ที่ไร้ที่ตินั้นทำให้ผู้ชมต่างปลาบปลื้มกับการแสดง เพราะผู้นำคนนั้นจะรู้ว่าควรพูดอะไร เวลาไหน และพูดยังไงให้ได้ผลดีที่สุด เราคงจะเคยเห็นพนักงานรู้สึกแย่กับน้ำเสียงที่เจ้านายเคยออกคำสั่งพวกเขาในเวลาต่าง ๆ อย่างเช่นเวลาทำงานแล้วไม่ได้ดั่งใจหรือต้องการให้แก้ไขงาน หากใช้โทนเสียงที่ส่งผลแย่หรือคำพูดที่ไม่ดีมาก นั่นก็อาจจะทำให้งานของพวกเขาออกมาไม่ดีเท่าที่ควรเช่นกัน หากคุณมีปัญหาในการสื่อสาร คุณอาจจำเป็นต้องพัฒนาทักษะเหล่านี้เพิ่มด้วย ลองคิดดูว่าการใช้คำพูดไหนจะเหมาะสมกับสถานการณ์และน้ำเสียงควรจะใช้โทนไหนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด 3 เรื่องภาพลักษณ์ในการแต่งกายก็สำคัญ ลักษณะทางกายภาพรวมไปถึงการแต่งกายของคุณจะสื่อให้เห็นว่าคุณเป็นคนอย่างไร […]

7 เศรษฐีพันล้านที่รวยที่สุดในโลกจากธุรกิจค้าปลีก

จากผลสำรวจจากนิตยสาร Forbes ถึง 20 อันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของปี 2019 เราก็พบว่ามีเศรษฐีพันล้านจากธุรกิจการค้าปลีกถึง 7 คนด้วยกัน วันนี้เลยชวนมาชมเศรษฐีพันล้าน 7 คนที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการค้าปลีกของพวกเขาที่ทุกคนต่างก็น่าจะคุ้นเคยแบรนด์เหล่านี้ดี   อันดับ 7. S. Robson “Rob” Walton ผู้สืบทอด Walmart สินทรัพย์สุทธิทั้งหมด : 44.3 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจค้าปลีก: Walmart     อันดับ 6. Alice Walton ผู้สืบทอด Walmart สินทรัพย์สุทธิทั้งหมด : 44.4 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจค้าปลีก: Walmart     อันดับ 5. Jim Walton ผู้สืบทอด Walmart สินทรัพย์สุทธิทั้งหมด : 44.6 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจค้าปลีก : […]

วิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยีปี 2019 : สตรีมมิ่ง

  วิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยีปี 2019 : สตรีมมิ่ง พูดถึงสตรีมมิ่ง หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึง Netflix เป็นตัวเลือกแรก และปีนี้ Netflix กำลังจะเจอกับคู่แข่งรายใหญ่เจ้าใหม่อย่าง Disney+ ที่หนาทั้งเงินทุนและคอนเทนท์ เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกันเลย และน่าจะท้าชิงเวลาบนหน้าจอไปจาก Netflix ได้อีกมาก จุดแข็งสำคัญที่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งพยายามสร้างมาโดยตลอด คือคอนเทนท์ออริจินอล อย่าง Netflix ก็ลงทุนด้านนี้ค่อนข้างเยอะและทำมาโดยตลอด ส่วน Disney+ ก็มีรายงานการสร้างซีรีส์ออริจินอลจากตัวละครลิขสิทธิ์ดัง ๆ ในมือ เช่น Clone War ซีซัน 7, Mandalorian จาก Star Wars และซีรีส์ Loki, Scarlet Witch จาก Marvel เพื่อดึงลูกค้าให้มาอยู่บนแพลตฟอร์มให้ได้มากที่สุด   Netflix ก็น่าจะต้องทุ่มเงินด้านการตลาดมากขึ้น เพื่อดึงลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า หลังจากปีที่ผ่านมา Netflix เพิ่มงบด้านการตลาดจากปี 2017 ราว […]

เปลี่ยนความผิดพลาดเป็นบทเรียน

คนทำงานเร็ว เปลี่ยนความผิดพลาดเป็นบทเรียน คนทำงานช้า มัวแต่กังวลและหวาดกลัว ความผิดพลาดให้ผลลัพธ์สิ่งเดียว คือ ขั้นตอนของการลองผิดลองถูกที่ตามมาด้วยผลของความสำเร็จ ดังนั้นความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัว หากลองใช้วิธีการไหนแล้วไม่ได้ผล ขอให้รู้ไว้ว่านั่นเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นที่ประสิทธิผลดีกว่า ในการทำงานสาระสำคัญของความผิดพลาด คือ การคาดการณ์พลาด และ เป็นโอกาสที่จะเห็นปัญหาชัดเจนขึ้น ครั้งแรกอาจจะลองทำเพราะคิดว่าจะเป็นอย่างงั้น แต่จริงแล้วอาจไม่ใช่ ผลลัพธ์ก็คือโอกาสที่เราจะตรวจสอบว่า ทำไมมันถึงต่างจากที่เราคิดหวังไว้ ครั้งหน้าต้องทำและแก้ไขอย่างไรจึงจะได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ หากคิดว่าความผิดพลาดแต่ละครั้งจะเป็นโอกาสให้เราได้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวความผิดพลาดจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องคิดมาก แต่กับคนที่ทำงานช้า เขาจะไม่สามารถยอมรับวงจรนี้ได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล เขาจะตื่นตระหนกโวยวาย “แย่แล้ว!” “ซวยแล้ว!” โดยไม่พิจารณาให้ลึกซึ้งว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วครั้งหน้าจะทำอย่างไรให้ไม่พลาดอีก บางคนคิดว่า ทำไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไร ครั้งหน้าก็ไม่ควรทำมันอีก เพราะแบบนี้ เขาจึงไม่มีความคิดจะทำมันอีก หรือไม่คิดหาทางอื่นที่จะทำให้เกิดผลที่ดี ไม่ว่าจะในด้านการทำงานหรือชีวิตประจำวัน เรามีวงจรการตั้งสมมติฐานในแต่ละวัน ตั้งแต่ลงมือทำ ตรวจสอบ ปรับแก้สมมติฐานเดิมแล้วลงมือทำให้อีกครั้ง ขั้นตอนนี้ทำให้เราตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และ ถูกต้องมากขึ้น คนรวยที่ทำงานเร็วแม้จะล้มก็ไม่ได้ลุกขึ้นเฉย ๆ จึงยังสามารถตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง คนรวยที่ทำงานเร็วใช้ประโยชน์จากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อไปในอนาคต

คนรวยทำงานเร็ว EP.1

1 วัน ของทุกคน มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน เรื่องที่ทุกคนรู้ แม้เราจะใช้เวลาเท่ากันเพราะอะไรเราจึงมีคนที่หาเงินเก่งกับคนที่หาเงินไม่เก่ง ? การทำงานได้อย่างรวดเร็วและประสิทธิภาพไม่ได้เกิดจากการกระทำเพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วอยู่ที่ “วิธีคิด” ซึ่งเป็นเบื้องหลังของการกระทำนั้น การจะบอกว่ารายได้สูงสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วก็ถูก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเคลื่อนไหวมือเท้าได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น ๆ กลยุทธ์ด้านเวลา ที่แท้จริงมีเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยมีวัตถุประสงค์ให้แต่ละคนทำสิ่งที่จำเป็นหรือมีสถานะทางการเงินที่ดี เพื่อทำให้สิ่งที่ปรากฏนาเป็นจริง และมีวิถีชีวิตในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด คนทำงานเร็วเพื่อเป้าหมายแล้วจะไม่เลือกวิธีการ คนทำงานช้าคิดว่า เรื่องอย่างนี้รับไม่ได้ .. คนทำงานเร็วนั้นเพื่อเป้าหมายแล้วจะไม่เลือกวิธีการ แม้จะฟังดูไม่ใช่เรื่องดี แต่แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงการทำสิ่งผิดกฎหมาย ความหมายจริง ๆ คือ “เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว สามารถทำได้ทุกอย่าง” หมายถึงให้ตัดเงื่อนไขว่า “ต้องอย่างนี้” “อย่างนั้นไม่มีทาง” “อย่างนั้นเขาไม่ทำกัน” ไม่ตั้งแต่เรื่องศาสนาหรือข้อห้าม คนรวยที่ทำงานเร็วไม่คำนึงถึงเรื่องทางศาสนาหรือข้อห้ามใด ๆ คนทำงานเร็ว ลองทำ “งานที่อยากทำ” คนทำงานช้า มัวแต่ทำ “สิ่งที่ควรทำ” ในวันหนึ่งงานของคนทำงานช้าส่วนใหญ่จะเป็น “สิ่งที่ต้องทำ” ต้องส่งเอกสาร ต้องตอบอีเมล ต้องชำระค่าบริการโทรศัพท์มือถือ แต่คนที่จะดีใจเมื่อเราทำสิ่งเหล่านั้นคือคนอื่น เช่น คนที่ได้รับเอกสาร คนที่ได้รับอีเมล และคนที่ได้รับค่าบริการโทรศัพท์… […]

Netflix เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้แชร์ปกหนัง ผ่าน Instagram Story !!

ก่อนดูต้องแชร์ให้โลกรู้ เหมาะกับพฤติกรรมชอบแชร์ของคนในยุคปัจจุบัน สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของ Netflix ที่ให้บรรดาแฟน ๆ ได้แชร์ปกหนังเรื่องโปรดไปยัง Instagram Story ฟีเจอร์ที่ฮิตในเหล่าวัยรุ่นอย่างเรา ๆ แต่ !! เริ่มต้นใช้ฟีเจอร์บน iPhone ก่อนนะจ๊ะ โดยผู้ที่เป็นสมาชิก Netflix และใช้งาน Application Netflix บน iPhone สามารถเลือกปกภาพยนตร์ที่ต้องการแชร์เพื่อน ๆ เพิ่มสติ๊กเกอร์ หรือลูกเล่นต่าง ๆ ใส่ปกได้ตามต้องการ จากนั้นจัดการแชร์เป็น Instagram Story บอกความเป็นตัวคุณให้เพื่อนหรือผู้ติดตามรู้ หรือจะแชร์แบบส่วนตัวเฉพาะเพื่อนบางคน บางกลุ่ม ผ่าน Direct Message ได้ ทั้งนี้ปกภาพยนตร์ Netflix ที่แชร์อยู่นั้นจะปรากฏอยู่ 24 ชั่วโมง และยังสามารถแตะลิงค์เพื่อเข้าไปเลือกชมภาพยนตร์หรือซีรี่ส์นั้น ๆ บน Application Netflix ได้ด้วย ก็เป็นอีกวิธีคิดที่น่าสนใจและน่าเอาไปลองปรับใช้ดูว่าเราจะทำยังไงให้ใช้งานฟีเจอร์ Story ได้คุ้มค่าในแบบที่มันเป็น อาจจะไม่ต้องเป็นคนที่สร้าง Story […]

4 วินัยที่ควรทำในชีวิตการทำงาน

สิ่งที่นักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานในช่วงแรก ๆ ต้องเรียนรู้ คือ เรื่องการสร้างวินัยและพฤติกรรมที่ดีในการทำงาน จะทำให้เราพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในการทำงานได้ 1. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี คุณควรที่จะสร้างความสัมพันธ์กับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน หรือ รุ่นพี่ที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้คุณได้คำแนะนำในการทำงานที่ดีจากพวกเขา และยังได้รับมิตรภาพที่ดีในหมู่พี่ ๆ ที่ทำงานอีกด้วย 2. จดบันทึกงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อที่งานจะได้ไม่ตกหล่นและวางแผนจัดลำดับความสำคัญของงานได้ นอกจากจะเป็นการเตือนตัวคุณเองไม่ให้ลืมแล้ว ยังทำให้เราสามารถประเมินได้ว่าต้องทำงานอะไรบ้าง ต้องทำสิ่งไหนก่อน – หลัง และทำให้งานของคุณออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ 3. สื่อสารกับหัวหน้าอย่างสม่ำเสมอ การสื่อสารเป็นสื่อที่ดี ไม่ว่าจะแจ้งส่งงานทุกครั้งที่งานเสร็จ หรือบอกเขาเมื่องานมีปัญหา หรือไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้จริง ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดและความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการทำงาน 4. การรักษาเวลา เพราะนอกจากจะทำให้เห็นว่าคุณเคารพเวลาคนอื่นแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงนิสัยส่วนตัวของคุณอีกด้วย ดังนั้นการตรงต่อเวลา หรือไปก่อนเวลาจะดีที่สุดต่อตัวคุณ และนี่คือ 4 สิ่งสำคัญที่คุณควรสร้างให้กับตัวเองในการทำงาน จะทำให้ชีวิตการทำงานของคุณราบรื่นขึ้น 

“Google Maps” เริ่มทดสอบเทคโนโลยี AR

“Google Maps” เริ่มทดสอบเทคโนโลยี AR ปีก่อนหน้านี้ Google ได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยี AR ในโปรแกรมของตัวเอง และเห็นภาพชัดที่สุดใน Google Maps การทำงานดังกล่าวต้องเปิดกล้องแล้วนำทางไป ล่าสุดฟีเจอร์ดังกล่าวกำลังจะใช้ได้จริง Google เริ่มเปิดทดสอบฟีเจอร์ Google Maps แบบ AR วิธีการใช้งาน เช่น ถ้าเราเกิดอยากไปร้านกาแฟแล้วต้องการนำทางไปร้าน เราสามารถใช้เทคโนโลยี AR ส่องบนถนน แล้วนำทางไปได้โดยจะมีลูกศรขนาดใหญ่บอกชัดเจน ซึ่งระหว่างใช้งานสามารถทำงานร่วมกับ Street View บอกสิ่งรอบตัวได้ เมื่อเราถือโทรศัพท์ของเราขึ้นมาระดับสายตาแผนที่มาตรฐานจะย่อเป็นวงกลมเล็ก ๆ ที่ด้านล่างของหน้าจอ หน้าจอส่วนใหญ่แสดงให้คุณเห็นโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าคุณราวกับว่าคุณกำลังมองผ่านกล้อง และเมื่อ Google รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนจะแสดงลูกศรบนหน้าจอเพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังติดตามและมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องและเมื่อถึงจุดเป้าหมายแล้วจะปรากฎจุดปักสีแดงและเคลื่อนไหวได้ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ AR แรกที่ Google ได้ทำออกมาแล้วใช้งานได้จริงตอนนี้คือการแปลภาษาที่ส่องไปที่ภาษาไหนก็แปลงได้เลย ส่วนฟีเจอร์นี้คาดว่าจะใช้งานได้ในอนาคต     ขอบคุณข้อมูล : insider