สุขภาพที่ดี นั้นถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ร่างกายคือสิ่งที่ต้องดูแลให้ดี ไม่ว่าจะวัยไหนสุขภาพล้วนเป็นสิ่งสำคัญ ต่อให้มีเวลาหรือทรัพย์สินเงินทองมากมายขนาดนั้น ถ้าสุขภาพไม่ดี ทุกอย่างล้วนสูญเปล่าไม่ได้ใช้อย่างแน่นอน มารู้จัก 3 สิ่งที่เป็นเรื่องง่ายๆที่ทำเป็นประจำแล้วจะทำให้สุขภาพดี 1.การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกคนและทำได้ง่ายเพียงนิดเดียว เพียงนอนหลับพักผ่อน 6-8 ชั่วโมงให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองก็สามารถช่วยให้สุขภาพนั้นดีได้และห่างไกลจากปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้อีกด้วย วิธีการง่ายๆ และฟรีในการดูแลสุขภาพให้ดีนั้นก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การอดหลับอดนอนติดต่อกันเป็นระยะเวลานานคือภัยที่ทำลายสุขภาพได้อย่างรุนแรงเลยล่ะ อย่าละเลยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะนี่คือสิ่งที่ฟรีและทำได้ง่ายแค่นิดเดียว จัดการตัวเอง จัดการบริหารเวลาให้เรียบร้อย หาเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 2.รับประทานอาหารที่ดี รับประทานอาหารที่ดีและอย่าอดอาหารบ่อยๆ ในส่วนรับประทานอาหารที่ดีแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ถูกพร่ำสอนกันมานานแต่ก็ยากนักที่จะทำให้ได้เป็นประจำ นั้นก็คือ การรับประทานอาหารที่มีโภชนาการ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีน้ำตาลสูง ไขมันเยอะ หรือเหล่าอาหารขยะต่างๆติดต่อกันเป็นเวลานานจะดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง และเพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินก็สามารถป้องกันตัวเองจาก โรคเบาหวาน และ โรคอ้วนได้อีกด้วย ส่วนการอดอาหารเป็นประจำนั้นก็เปรียบเสมือนการเปิดประตูเชิญโรคร้าย ปัญหาสุขภาพให้เข้ามา ค่ารักษาพยาบาลนั้นแพงกว่าค่าอาหารแน่นอน ลงทุนในการรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อดีกว่ามาลงทุนกับค่ารักษาพยาบาล 3.ออกกำลังกายบ้างก็ดี ออกกำลังกาย ออกไปทำกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกาย นั้นก็เป็นสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดี การออกกำลังกายนั้นมีหลากหลายประเภท เลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณและหาเวลาออกไปทำกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกายบ้างดีกว่าอย่าง การเล่นกีฬา การเดินเร็ว การวิ่ง ออกกำลังกายนี่แหละสิ่งที่ทำได้ฟรีๆ แต่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ายา 3 สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆและไม่เสียเงินเท่ากับค่ารักษาพยาบาลแน่นอน […]
การนอนดึกนั้นแน่นอนว่ามันก็มีผลเสียต่อสุขภาพแต่ถึงกระนั้นใช่ว่า การนอนดึกนั้นจะไม่มีประโยชน์เลยเสียทีเดียวและไม่ใช่เรื่องที่น่าละอายใจเสมอไปด้วย การเป็นคนนอนดึกนั้นก็มีประโยชน์ มาอ่านกันว่า 3 ประโยชน์ของการนอนดึก มีอะไรบ้าง 1.ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย คาธอลิคในมิลานได้ทำการค้นพบว่า คนที่นอนดึกนั้น มักจะเป็นพัฒนาแนวคิดการแก้ไขปัญหาและแนวคิดที่สร้างสรรค์ได้มากกว่าคนประเภทตื่นเช้า โดยมีข้อสนับสนุนจากผู้เขียนงานวิจัยนี่ว่า เหล่าคนที่นอนดึกนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะมีความคิดสร้างสรรค์สูงเนื่องจาก การนอนดึกนั้นได้ทำการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความสามารถที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่ไม่ธรรมดาได้ 2.คนนอนดึกนั้นมักจะมี IQ สูง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งแมนดริคได้เผยแพร่งานวิจัยที่นำเสนอรูปแบบพฤติกรรมการนอนหลับของวัยรุ่นนับ 1,000 คน ในงานวิจัยนั้นได้พบว่าเหล่าวัยรุ่นที่นอนดึกนั้นจะมีคะแนนสูงในด้าน IQ มากกว่าวัยรุ่นที่เป็นพวกตื่นเช้า แต่กระนั้นใน วัยรุ่นที่ตื่นเช้าจะสามารถทำเกรดในโรงเรียนได้ดีกว่าเหล่าวัยรุ่นที่นอนดึก 3.คนนอนดึกนั้นตื่นตัวและมีพลังงานสูง จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ลีเจอร์ในเบลเยียมได้ทำการสังเกต ผู้ที่นอนดึก 15 คนและเหล่าผู้ที่ตื่นเช้า 16 คน และให้ผู้เข้าร่วมเหล่านั้นใช้ชีวิตพฤติกรรมการนอนตามปกติ โดยเหล่านักวิจัยจะทำการวัดความตื่นตัวของสมองหลังจากที่ผู้เข้าร่วมนั้นตื่นขึ้นมาครั้งแรกของวันและตรวจวัดอีกครั้งหนึ่งหลังจาก 10 ชั่วโมง 5 นาทีให้หลังจากการตื่นเช้า งานวิจัยนี่พบว่า ทั้งผู้ที่นอนดึกและตื่นเช้ามีคะแนนการตื่นตัวของสมองที่ใกล้เคียงกัน แต่ในช่วงเวลา 10 ชั่วโมง 5 นาทีให้หลังกลุ่มที่เป็นคนตื่นเช้านั้นจะมีความตื่นตัวของสมองน้อยกว่ากลุ่มคนที่นอนดึก นอกจากนี้กลุ่มคนที่นอนดึกนั้นจะมีพลังงานสูงกว่าคนที่ตื่นเช้า ทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้ยาวนานกว่าคนที่ตื่นเช้า 3 ประโยชน์จากการนอนดึกเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในทางด้านความคิด การทำงานมากกว่าด้านสุขภาพ ทางที่ดีที่สุดควรจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงจะดีกว่า
ไม่ได้เกิดมาร่ำรวยแต่ก็สามารถร่ำรวยมั่งคั่งได้ และนี่ไม่ใช่เพียงประโยคขายฟังลอยๆ ที่ไม่มีตัวอย่างของผู้ที่ทำได้จริง ในชีวิตจริงมีผู้ประสบความสำเร็จมากมายที่เริ่มต้นจาก 0 ไม่มีต้นทุน ไม่ได้ร่ำรวย แต่พวกเขาก็สามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ หนึ่งในนั้นคือ วอร์เรน บัพเฟตต์ ( Warren Buffett ) อ่านบทเรียนสุดล้ำค่าจากชายผู้ไม่มีเงินล้านสู่ผู้มีเงินนับพันล้าน ในบทความนี้คุณจะได้อ่านบทเรียนสุดล้ำค่าอย่าง มีเป้าหมายอันแน่วแน่ ความสม่ำเสมอและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ เก็บเงินก่อน ใช้ทีหลัง รักในสิ่งที่ทำ ทำงานในสิ่งที่รัก ตัดสินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเอง มีเป้าหมายอันแน่วแน่ ถ้าไม่มีจุดเส้นชัย ไม่มีจุดมุ่งหมาย ต่อให้วิ่งอย่างรวดเร็วเพียงใด ต่อให้พยายามเพียงใด ถ้าปราศจากสิ่งที่ต้องการ เป้าหมายอันแน่วแน่ย่อมจะไม่สามารถหาทางไปสู่สิ่งที่ต้องการได้อย่างแน่นอน วอร์เรน บัพเฟตต์ นั้นมีลักษณะนิสัยในการตั้งเป้าหมายอันแน่วแน่มาตั้งแต่ในวัยเด็ก ในขณะที่ตามประสาเด็กทั่วไป เด็กส่วนมากนั้นยังคนวิ่งเล่นสนุกสนาน ชื่นชอบเพ้อฝันถึงอนาคตแฟนตาซี สังสรรค์พูดเล่นไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ แต่ วอร์เรน นั้นไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นเลย ตั้งแต่วัย 7 ขวบ วอร์เรน ได้เริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องการลงทุน ธุรกิจและการงานโดยเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือที่เขาอ่านในห้องสมุด หนังสือ One Thousand Ways to Make $1000 หลังจากนั้นเขาก็แน่วแน่ในการที่จะเป็นผู้ประกอบการสร้างธุรกิจและร่ำรวยให้จงได้ […]
การสูบบุหรี่ คือตัวการทำลายสุขภาพและเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่มะเร็งต่างๆ แต่ว่าในทุกวันนี้ อันตรายจากการสูบบุหรี่ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งและเป็นภัยต่อสุขภาพอีกแล้ว โรคอ้วน ก็สามารถกลายเป็นภัยร้ายแรงเท่ากับการสูบบุหรี่ได้เช่นกัน และมันมักจะเป็นภัยที่ผู้คนละเลยเป็นอย่างมาก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นกันล่ะ ชาวมิลเลเนียนเป็นช่วงวัยที่อ้วนมากที่สุด ชาวมิลเลเนียน คือช่วงคนที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี 1980-1990 เป็นช่วงวัยที่มีการบันทึกไว้ว่ามีน้ำหนักมาก โรคอ้วนมากที่สุดกว่าทุกเจนเนเรชั่น และชาวมิลเลเนียนนั้นมีปัญหาเรื่องโรคอ้วนมากกว่า การเสพติดบุหรี่เสียอีก ซึ่งภัยจากโรคอ้วนนั้นจะนำไปสู่ การเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นเอง นี่จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องมีการหันมาสนใจ ภัยจากโรคอ้วนให้มากขึ้น โรคอ้วนคือสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งเป็นอันดับที่ 2 ถ้าพูดถึงสาเหตุอันดับหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั้น แน่นอนว่าใครหลายๆ คนจะนึกถึงการสูบบุหรี่มาก่อนเป็นอันดับแรกและละเลยการคิดถึงว่า อะไรกันคือสาเหตุอันดับที่ 2 ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคอ้วน คือสาเหตุที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งเป็นอันดับ 2 รองจากการสูบบุหรี่และมีมะเร็งมากกว่า 14 ชนิดที่สามารถเกิดจากโรคอ้วน แต่ภัยร้ายแรงหนึ่งของโรคอ้วนก็คือ การป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การเกิดโรคอ้วนนับว่าเป็นภัยทางสุขภาพที่ร้ายแรงพอๆกับการสูบบุหรี่เลยทีเดียวและยังมีแนวโน้มอาจจะร้ายแรงกว่าการสูบบุหรี่อีกด้วย เพราะภัยจากโรคอ้วนก็คือการนำไปสู่ โรคเบาหวานนั้นเอง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีหนทางรักษาให้หายขาด มีเพียงการบรรเทาและรักษาประคองอาการไปเท่านั้นเอง ณ ประเทศอังกฤษ ที่กลุ่มเสี่ยงนับ 12 ล้านคนที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากโรคอ้วน จึงได้มีมาตรการในการต่อสู้กับภัยโรคอ้วนในทุกๆ หนทาง ตั้งแต่ การเริ่มรณรงค์มากขึ้น มีมาตรการให้โรงพยาบาลลดจำนวนการขายน้ำหวานและขนมที่มีจำนวนปริมาณน้ำตาลมาก ให้เพิ่มผลไม้ขึ้นมาแทน โรคอ้วน เป็นประเด็นสำคัญในด้านสุขภาพที่ต้องหันมาใส่ใจกันให้มากขึ้น เพราะมันมักจะเป็นซึ่งที่ผู้คนลืมเลือนและคิดว่ามันคงไม่อันตรายเท่าการสูบบุหรี่ แต่ว่าโรคอ้วน นี่แหละที่จะกลายเป็นภัยร้ายแรงเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ได้ […]