Marvel ค่ายคอมมิคและสตูดิโอชื่อก้องโลกที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยินมาบ้าง โดยเฉพาะแฟนๆแนวฮีโร่ทั้งแบบคอมมิคและภาพยนตร์ก็จะยิ่งรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี แต่นอกเหนือจากการผลิตภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จที่คนรับชมถล่มทลายและการมีฐานแฟนจากคอมมิิคซูเปอร์ฮีโร่มากมายทั่วโลกแล้วนั้น ในแง่ด้านธุรกิจกว่า Marvel จะมีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ได้ นั้นเคยล้มละลายมาก่อน ส่วนหนึ่งของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มาจากเรื่องราวการล้มละลาย อ่านการพุ่งทยานสู่ความสำเร็จอันสูงสุดจากจุดที่ตกต่ำได้ในบทความนี้ ความล้มเหลวเป็นความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอหากไม่รู้จักปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เข้ากับยุค ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และการขายเพียงแค่คอมมิคซูเปอร์ฮีโร่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถช่วยให้ Marvel อยู่รอดได้อย่างแน่นอน จนกระทั่ง Marvel ได้พบหนทางใหม่ในการปลุกชีพให้กลับมาสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง Marvel สู่จอภาพยนตร์ เสน่ห์และจุดขายอันสำคัญของ Marvel นั้นก็คือการเขียนเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมผ่านหนังสือคอมมิคที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันแสนสนุกมากมายพร้อมทั้งตัวละครซูเปอร์ฮีโร่อีกนับร้อยพันกว่าตัวละคร สิ่งเหล่านั้นคือจุดขายและทาง Marvel ก็ได้ทำการขายลิขสิทธิ์ของเรื่องราวคอมมิคอันยอดเยี่ยมและตัวละครเหล่านั้นให้กับสตูดิโอภาพยนตร์เพื่อนำมันไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ในช่วงปลายยุค 90’s ภาพยนตร์เรื่อง Blade และภาพยนตร์ตระกูล X-Men ประสบความสำเร็จและสร้างกำไรได้เป็นจำนวนมาก เมื่อ Marvel จากคอมมิคเริ่มเข้าสู่จอภาพยนตร์ทำให้มีฐานแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมากมายและยังถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนมาให้เข้ากับยุคสมัยที่ภาพยนตร์เป็นสิ่งยอดนิยมได้ดีอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น Marvel ก็ได้รับกำไรไม่มากนักเท่ากับสิ่งที่พวกเขาเป็นผู้ให้กำเนิดมันขึ้นมา จักรวาลภาพยนตร์ Marvel พยายามยื่นข้อเสนอกับสตูดิโอมากมายเพื่อสร้างภาพยนตร์ของซูเปอร์ฮีโร่ที่พวกเขาถือครองลิขสิทธิ์อยู่เองจนในที่สุดในปีค.ศ.2005 พวกเขาได้รับทุนจำนวน 525 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการตกลงกับ บริษัท Wall Street Merrill Lynch ในการสร้างภาพยนตร์มากกว่า 10 เรื่อง อนาคตทั้งหมดของ Marvel […]
ผู้พันแซนเดอร์ส เจ้าของตำนานไก่ทอด KFC ความสำเร็จ ของผู้พันแซนเดอร์ส ที่เราทุกคนคงได้เคยอุดหนุนมาค่อนข้างช้านาน โดยเขาเริ่มทำ KFC เมื่ออายุ 65 และกว่าจะเห็นเงินหลักล้านก็อายุ 74 เข้าไปแล้ว เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญหลัก ๆ กว่าที่จะเป็นผู้พันแซนเดอร์ส ผู้สร้างตำนานไก่ทอด KFC “Everyone’s path takes different amount of time” ทางเดินของทุกคนใช้เวลาต่างกัน ภาพที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ คือ เรียนจบเมื่ออายุ 20 ต้น ๆ ทำงานจนถึง 30 ต้น ๆ แล้วเริ่มสร้างครอบครัวมีลูก มีรถ มีบ้าน ประสบความสำเร็จ มีทุกอย่างในชีวิต เมื่ออายุ 40 หรือ 50 เพื่อที่จะได้เกษียณ อายุ ในวัย 60 ปี จงจำไว้ว่าเวลาของทุกคนนั้นต่างกัน บางคนเรียนจบเร็วแต่กลับหางานได้ช้า บางคนเรียนไม่จบหางานไม่ได้ แต่กลับทำธุรกิจสำเร็จ “จงอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ กับ […]
ในทุกๆปีช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างเด็กอนุบาลกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยประถมศึกษา ช่วงฤดูกาลสอบคัดเด็กเข้าเรียน มีเด็กนักเรียนมากกว่า 1 พันคนต้องแข่งขันกับเพื่อเข้าโรงเรียนที่ผู้ปกครองคาดหวังไว้ซึ่งรับเด็กเพียงแค่จำนวน 100 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้เกิดการติวเด็กเล็กเพื่อสอบเข้า ทุ่มเทกับแต่เพียงเรื่องเรียนและละเลยสิ่งอื่น นอกจากนี้ เด็กที่ไม่ถูกคัดเลือกพวกเขาจะหายไปไหนกันล่ะ ยกเลิกการสอบเข้า ป.1 สมควรหรือไม่ เด็กเล็กไม่สมควรสอบ ช่วงวัยเด็กเล็กตั้งแต่ 0-8 ปีเป็นวัยที่ไม่ควรจะมีการสอบเลย ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้าหรือสอบในระหว่างชั้นเรียน เพราะในวัยเหล่านั้นเป็นวัยที่สมองกำลังมีการพัฒนา เป็นวัยสำคัญแห่งการเรียนรู้และเติบโตของเด็ก เป็นวัยที่พวกเขาสมควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กทั่วๆไป มิใช่ต้องนั่งตรากตรำท่องตำราเพื่อเรียนรู้ อีกอย่างเด็กๆ ทุกคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน การใช้วิชาการมาเป็นตัวชี้วัดว่าพวกเขาเก่งพอหรือไม่ในการเข้าโรงเรียนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง พวกเขาควรจะได้ใช้ชีวิตสมวัย เน้นเรียนตั้งแต่วัยเด็กคือภัยเงียบในอนาคต ผู้ปกครองล้วนคาดหวังอยากจะให้ลูกของพวกเขาได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดและนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การสนับสนุนให้เด็กๆใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาต้องการโดยไม่คำนึกถึงวัยเด็กเล็กที่พวกเขาสมควรจะเป็น ความกดดันที่ได้รับผ่านจากการส่งเสียบังคับให้ตั้งใจอ่านตำราเพื่อเตรียมเรียนป.1 ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย การเน้นให้เด็กเรียนมากจนเกินไปนั้นเป็นสิ่งที่จะมีผลเสียตามมาต่อตัวของเด็กคนนั้นอย่างแน่นอน อีกหนึ่งทางเลือกที่จะมาแทนยกเลิกการสอบเข้า ป.1 ได้คือการสอบผู้ปกครองแทน และสอบถึงความสามารถในการเลือกลูกว่าสามารถเลี้ยงลูกของพวกเขาได้ดีหรือไม่ การเน้นเรียนตั้งแต่วัยเด็ก ส่งเสียให้เรียนพิเศษตั้งแต่เข้าอนุบาลนั้นเป็นภัยเงียบที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเด็กเองได้ในอนาคต แม้จะมีตัวอย่างเด็กที่เก่งในด้านการเรียนและครอบครัวทั้งหลายต่างคาดหวังให้ลูกของพวกเขานั้นเรียนหนังสือได้ดี แต่ใช่ว่าเด็กทุกคนมีความสามารถเหมือนกัน การเน้นให้สนใจแต่เรียนมากจนเกินไปจะทำให้เด็กขาดทักษะชีวิตและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาการฆ่าตัวตายเนื่องจากความกดดันด้านการเรียนได้ในอนาคต ยกเลิกการสอบเข้า ป.1 สำหรับเด็กเล็กนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสมควรอย่างยิ่งแก่ตัวเด็กเอง เพราะพวกเขาคือเด็กและเด็กก็ควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างวัยเด็ก มิเช่นนั้นถ้าหากเน้นแต่การเรียน เด็กที่เป็นอนาคตของชาติจะสามารถเรียนรู้ทักษะชีวิตได้จากที่ใดกัน