เทคโนโลยีนั้นสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายหนทางและหนึ่งในการนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้านั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ได้ดีอย่างยิ่งในด้านการตามหาตัวบุคคล ทั้งเหล่าผู้ต้องหาหนีคดีและรวมไปถึงช่วยตามหาบุคคลที่ถูกระบุว่าสูญหายได้อีกด้วย ล่าสุดเทคโนโลยีตรวจจับนี้สามารถช่วยตามหาตัวเด็กที่หายตัวไปได้ถึง 3,000 คน ช่วยตามหาบุคคลสูญหายให้กลับคืนบ้านได้อีกครั้ง ในประเทศอินเดียนั้นมีเด็กที่เป็นบุคคลสูญหายถึง 200,000 กว่าคนและมีเด็กมากมายถึง 90,000 คนที่ถูกจับเข้าสู่สถาบันที่รับดูแลเด็ก หลังจากตำรวจอินเดียได้นำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้ามาใช้งานช่วยตรวจสอบใบหน้าบุคคลถึง 45,000 คนภายในเมืองทำให้พวกเขาค้นพบใบหน้าของเด็กที่ถูกรายงานว่าสูญหายไปถึง 3,000 คนได้ภายในระยะเวลา 4 วันเท่านั้น และพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือในการหาทางนำพาเด็กที่สูญหายให้กลับบ้านได้ เทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปัญหาบุคคลสูญหายเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากในหลายประเทศและเป็นคดีที่สามารถปิดได้ยากอีกด้วย การนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้ามาช่วยจัดการตามหาบุคคลสูญหายนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับประเทศอินเดียที่มีปัญหาเรื่องบุคคลสูญหายมาเป็นเวลานาน ต่อจากนี้ทางรัฐบาลอินเดียจะนำเทคโนโลยีนี้ไปพัฒนาต่อเพื่อให้มันสามารถช่วยตามหาตัวบุคคลสูญหายให้ได้มากขึ้น เทคโนโลยีจะดีหรือไม่ดีนั้นคืออยู่ที่การใช้งาน แน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์ แต่ทว่าก็มีความกังวลถึงอีกด้านหนึ่งของเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าว่ามันจะกลายเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวที่มากจนเกินไป เมื่อไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะมีภาพตรวจจับใบหน้าไว้อยู่เสมอ ที่มา : independent.co.uk
“คอนเทนต์ คือ ราชา.” คือหัวข้อของเรียงความที่ บิล เกตส์ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Microsoft ค.ศ.1996 และประโยคที่สนับสนุนเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือราชาในยุคแห่งอินเทอร์เน็ตนั้นก็คือ “คอนเทนต์คือที่ที่ผมคาดหวังว่ามันจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับการกระจายข่าวสารข้อมูล.” ในตอนนั้นมีเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และผู้ที่รู้จักใช้ผลประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์ก็ต่างสำเร็จผลอันยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ อย่าง แจ็ค หม่า เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์และเริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเล็กๆที่เป็นฐานก้าวไกลไปสู่เว็บค้าปลีกแห่งเอเชียได้ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจและแบรนด์ดังมากมายที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยแต่ก็สามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะรู้จักพลังแห่งคอนเทนต์ บิล เกตส์ได้ทำนายอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตล่วงหน้าไว้ถึง 20 ปีแล้วและสิ่งที่เขาทำนายไว้นั้นก็ถูกต้อง ยิ่งในทุกวันนี้ เป็นยุคที่ คอนเทนต์ คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์และธุรกิจ มันสามารถช่วยให้แบรนด์ก้าวไกลเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลได้ มันสามารถช่วยธุรกิจให้สามารถสร้างยอดขายมากกว่าเดิมได้ ถ้าหากคุณยังไม่เชื่อว่า คอนเทนต์นั้นมีพลังมากขนาดไหน มาอ่านเหตุผลที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพลังของคอนเทนต์มากขึ้นและรู้ว่าทำไมกันถึงต้อง ขนานนามมันว่า คอนเทนต์ คือ ราชา แห่งโลกออนไลน์ คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ คอนเทนต์ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆให้กับธุรกิจได้ คอนเทนต์ที่ดีช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม คอนเทนต์ดีต่อ SEO คอนเทนต์คุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณมาก คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ พลังสำคัญของคอนเทนต์นั้นก็คือมันสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจได้มากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์สู่โลกออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการของแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ในอนาคตเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นมากขึ้น พวกเขาจะสามารถเข้าใจว่า แบรนด์นั้นต้องการสื่อถึงอะไร ขายอะไรบ้างและทำให้พวกเขารู้จักแบรนด์มากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างแบรนด์หนึ่งที่มีคอนเทนต์ให้อ่านเกี่ยวกับสินค้าและบริการ มีคอนเทนต์อัปเดตใหม่ๆอยู่เสมอและอีกแบรนด์ที่ไม่มีคอนเทนต์ที่อัปเดต ไม่มีคอนเทนต์มากมายให้อ่านมากนัก […]
อินเทอร์เน็ตได้ทำลายกำแพงแห่งช่องวัยในอาชีพหลายอาชีพและหนึ่งในอาชีพที่เมื่ออยู่ในโลกดิจิทัล โลกที่มีอินเทอร์เน็ตได้ก้าวกระโดดประสิทธิภาพในการทำมากขึ้น นั้นก็คืออาชีพ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจต่างๆที่ไม่จำกัดช่วงวัย ไม่ว่าวัยใดแห่งมีความคิดและใจรักก็สามารถก่อตั้งธุรกิจได้ ช่วงวัยที่นิยมก่อตั้งธุรกิจที่พบเห็นได้ทั่วไปในทุกวันนี้ก็คือ นักศึกษา มีธุรกิจมากมายที่ก่อตั้งโดยนักศึกษาหรือเริ่มต้นจากนักศึกษา แน่นอนว่าก่อตั้งธุรกิจใครๆก็สามารถทำได้ สิ่งที่ยากคือการทำอย่างไรให้ธุรกิจนั้นรอดต่างหาก 3 เคล็ดเหล่านี้คือ เคล็ดลับสำหรับนักศึกษาที่ก่อตั้งธุรกิจ 1.เส้นใยความสัมพันธ์สุดแข็งแกร่ง เมื่อถึงวัยทำงาน การจะพบเจอผู้คนใหม่ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากขึ้นเมื่อเทียบกับวัยนักศึกษา ในมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสามารถหลากหลาย หากอยากรู้จักใครก็สามารถเข้าไปทำความรู้จักได้ การสร้าง Connection ในช่วงวัยมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งสำคัญเพราะสายสัมพันธ์เหล่านั้นจะกลายเป็นสายสัมพันธ์สุดแข็งแกร่งได้ในทั้งปัจจุบันและอนาคตภายหลัง นอกจากนี้เหล่าบัณทิต ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยก็เป็น Connection ชั้นยอดที่จะสามารถคอยช่วยเหลือรุ่นน้องอย่างคุณได้ ดีไม่ดีในวัยนักศึกษาคุณอาจจะสามารถหาเพื่อนมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจคู่ใจได้อย่างยาวนานไปจนถึงอนาคตเลยก็เป็นได้ 2.อาจารย์มหาวิทยาลัยคือที่ปรึกษาชั้นยอด หากคุณมีไอเดียที่อยากจะริเริ่มทำอะไรสักอย่างและต้องการคำปรึกษาแบบฟรีๆ ก็ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเหลือคุณได้อย่างจริงใจและฟรีอย่างอาจารย์มหาวิทยาลัยได้อีกแล้ว เมื่อออกสู่โลกการทำงาน การจะหาคนที่ช่วยเหลือคุณอย่างไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนเลยตามท้องถนนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะฉะนั้นในวัยนักศึกษา คุณสามารถขอคำปรึกษาจากเหล่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเรื่องไอเดียธุรกิจและความรู้เชิงลึกได้มากมาย โดยเฉพาะเหล่าคณะที่สอนความรู้ทางด้านธุรกิจ การเงิน อาจารย์ของคณะเหล่านั้นรับรองว่าจะช่วยคุณได้เป็นอย่างมากในการเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจ 3.เรียงลำดับสิ่งสำคัญให้ดี วัยนักศึกษาก็ย่อมยังต้องศึกษาความรู้อยู่ การเรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งสำคัญ การหาเหตุผลสำคัญในการก่อตั้งธุรกิจให้ดีนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในวัยนักศึกษาที่ต้องพึ่งบริหารเวลาให้ดี หากคิดอยากจะทำเล่นๆแล้วล่ะก็ บางครั้งมันอาจจะไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียเปล่า การจัดเรียงลำดับสิ่งสำคัญ การแบ่งเวลาให้ได้นั้นเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำให้ได้ ถ้าอยากจะบริหารทั้งธุรกิจและชีวิตนักศึกษาให้รอด มีผู้ประกอบการมากมายที่ก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่วัยนักศึกษา แต่ก็ใช่ว่าทั้งธุรกิจที่ก่อตั้งนั้นจะไปรอด จดจำ 3 เคล็ดเหล่านี้ไว้ให้ดีและใช้ประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด ข้อสำคัญคือการเรียงลำดับสิ่งที่สำคัญและแบ่งเวลาให้เป็น มิเช่นนั้นทั้งธุรกิจและการเรียนของคุณอาจจะล้มเหลวสลายหายไปได้