หลักจิตวิทยาที่เราควรทำความเข้าใจ เพื่อการเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น

หลักจิตวิทยาที่เราควรทำความเข้าใจ เพื่อการเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น

การค้นคว้าแสดงให้เห็นว่าผู้คนมักจะเชื่อว่าตัวเองมีความพิเศษ ใช้ความคิดของตัวเองในการตัดสินน้อยกว่าและมีจุดมุ่งหมายมากกว่าคนอื่นทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ก็ตาม เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของกระบวนการ เราต้องสามารถควบคุมมันได้

1. เมื่อคนเราวิจารณ์ผู้อื่น พวกเขาก็มักจะบรรยายถึงตัวเองด้วย
ถ้าคุณต้องรักตัวเองก่อนจึงจะสามารถรักผู้อื่นได้เป็นเรื่องจริง ก็น่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับความพอใจในตนเองได้เช่นกัน หากคุณรักคนอื่นในสิ่งที่คุณรักในตัวเองคุณเกลียดคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ในตัวคุณ คุณเห็นผู้อื่นว่ามีค่าพอในชีวิตของคุณ แต่คุณไม่มองคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่มี ไม่รักในตัวคุณ การมองผู้อื่นในแง่บวกสามารถบอกได้ว่าคุณพอใจในตนเองและชีวิตของตัวเองมากแค่ไหน รวมถึงคนอื่นชอบคุณมากแค่ไหนด้วย

2. เมื่อคนเรามั่นใจในสิ่งที่ตนเองเข้าใจก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะกล้าออกความเห็นมากขึ้น
การศึกษาทางจิตวิทยาทางการเมืองพบว่าความสามารถในการอดทนมีความสัมพันธ์กับความรู้สึกของการถูกคุกคาม เหตุผลที่คนมีความเปิดกว้างมากขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับมุมมองของฝ่ายตรงข้าม โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามีความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถโต้แย้งมุมมองของตนเองและเปิดรับฟังผู้อื่น
ผู้ที่มั่นใจในความรู้ของตัวเองจะกล้าสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าจะสามารถปกป้องมุมมองของตัวเองได้ ส่วนผู้ที่ไม่มั่นใจในความรู้ด้านการเมืองของตัวเองก็จะปิดปากเงียบต่อไป

3. ว่ากันว่าความสุขจะมาเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่การศึกษาเผยว่าจริง ๆ แล้วความสุขนั้นอยู่ได้นานเมื่อเวลาผ่านไป
ทั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่าความสุขจะค่อย ๆ ลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไปเช่นกัน ความสุขร้อยละ 40 เกิดจากกิจกรรมที่เราเลือกจะมีส่วนร่วม สิ่งต่าง ๆ ที่เราทำและคิดในแต่ละวัน ที่สำคัญการศึกษายังเผยอีกว่าความสุขจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนเราแก่ตัวลง

4. ว่ากันว่าความรู้สึกกลัวจะเด่นชัดกว่าความรู้สึกที่เป็นกลางหรือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ หรือการคิดบวก
คนเรามักจะรู้สึกวิตกกังวลมากกว่ารู้สึกซาบซึ้งใจ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์จะคอยสอดส่องและระวังสิ่งที่เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ของตัวเอง ข่าวดีคือเมื่อรู้ตัวแล้วคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงแนวความคิดดังกล่าวและสามารถใช้เหตุผลเพื่อทำความเข้าใจได้

5. ผู้คนมักจะมองว่าความผิดของตัวเองสามารถให้อภัยได้และตัวเองมีความพิเศษมากกว่าผู้อื่น
หากคนอื่นประสบความสำเร็จคุณอาจหาคำอธิบายว่าทำไม แต่เมื่อคุณประสบความสำเร็จคุณก็จะให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความสามารถหรือความอุตสาหะ หากคนอื่นตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากคุณก็อาจแนะว่าพวกเขาควรพยายามมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นคุณบ้างคุณก็จะบอกว่าคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ หากคุณตั้งมาตรฐานว่าคุณคือ “คนเก่งที่สุด” ความสำเร็จของผู้อื่นก็อาจทำลายภาพลวงตาเหล่านั้นได้ คุณควรยอมรับตัวเองและคุณก็จะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้โดยที่ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

6. คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามุมมองของพวกเขาเป็นอย่างที่เห็นจริง ๆ
คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามุมมองและการรับรู้ของตัวเองคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดหรือที่เรียกว่าสัจนิยมไร้เดียงสาและเกิดขึ้นเนื่องจากความเป็นจริงที่ปรากฏชัดขณะที่เรารับรู้มัน

7. ความคิดที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จะกลายเป็นมุมมองแม้ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม
โดยธรรมชาติสมองของคนเราจะต้องการข้อมูลใหม่ ๆ มาเสริมกับความเชื่อเดิม ด้วยเหตุนี้เราจึงมักจะยึดติดความเชื่อเดิม ๆ แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่หรือถูกต้องกว่าเดิมก็ตาม สิ่งที่คุณคิดจะกลายเป็นความเชื่อ สิ่งที่คุณเชื่อจะกลายเป็นการกระทำ และสิ่งที่คุณทำจะกลายเป็นตัวตนของคุณ
ทางที่ดีที่สุดก็คือการทำความเข้าใจกระบวนการเหล่านี้และนำมาประยุกต์ใช้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด การรู้จักตนคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง

ขอบคุณข้อมูล : forbes

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn