ชายผู้ล้มเหลว สู่ธุรกิจแสนล้าน Daiso

จุดกำเนิดของร้านขายสินค้าราคา 100 เยนนั้น กลับถือกำเนิดขึ้นบนพื้นฐานของความเรียบง่าย คิดง่าย ๆ ทำอะไรง่าย ๆ แต่กลับได้ผลตอบแทนมหาศาล

บริษัท ไดโซ ซังเกียว ก่อตั้งโดยคุณยาโน  ฮิโรทาเคะ (Hirotake Yano) ชายผู้ประสบความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากแต่งงานได้กลับไป เพาะพันธุ์ปลาอามาจิ ที่บ้านเกิดของภรรยา แต่กลับล้มเหลว พร้อมกับต้อง ทั้งยังมีหนี้สินจำนวนมากที่ต้องแบกรับ  พอทำงานบริษัทก็ไม่รอดจนต้องเปลี่ยนงานถึง 9 ครั้งจนเขาคิดว่าชีวิตหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเพราะค่านิยมของคนญี่ปุ่นไม่นิยมการเปลี่ยนงานบ่อยๆเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่ดี

 

ขณะที่ทำงานเขาก็บังเอิญเดินไป พบรถจักรยานจอด อยู่ 10 คัน เมื่อเดินเข้าไปดูเขาก็พบว่า เป็นรถสำหรับขายของเคลื่อนที่ คุณยาโน จึงเข้าไปขอฝากตัว เป็นลูกศิษย์ ศึกษาเรื่อง การค้าขาย คุณยาโนได้เปิดร้านเป็นของตัวเองเมื่ออายุ 29 ปี จำหน่ายสินค้าเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด หม้อ เครื่องมือช่าง และตั้งชื่อร้านว่า “ร้านยาโน“ (Yano Shoten) ที่เมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) และต่อมาภายหลังได้กลายเป็น บริษัท DAISO จนถึงทุกวันนี้

เริ่มแรก 2 สามีภรรยาช่วยกันค้าขายแบบเคลื่อนที่ โดยที่สินค้ามีราคาแตกต่างกันไป แต่ในช่วงเวลานั้น เขามีภาระที่จะต้องเลี้ยงดูลูกด้วย จึงเปลี่ยนวิธีการขายเพื่อให้สะดวกมากขึ้น โดยการติดราคาสินค้าให้เป็น 100 เยนทั้งร้าน คุณยาโนมีความอุตสาหะ ที่จะทำให้ร้านเจริญเติบโตมากกว่านี้ และด้วยแรงปราถนาของเขา เขาจึงขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้นและตั้งเป็น บริษัท DAISO SANGYO ที่ตั้งเป็นบริษัท DAISO SANGYO เพราะชื่อ SANGYO(Industry) หรือ SHOUJIBUSSAN (Commercial Product) กำลังเป็นที่นิยมในสมัยนั้น

 

แต่ผลตอบรับจากลูกค้าไม่ค่อยดีนัก และในขณะที่คุณยาโนกำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้ลูกค้าเข้าร้านอยู่นั้น อยู่ ๆ ก็มีลูกค้าท่านหนึ่ง พูดขึ้นว่า “ที่นี่ขายของถูกขนาดนี้ ก็เหมือนกับเสียเงินไปเปล่า” จึงทำให้ลูกค้าท่านอื่น ๆ ที่ได้ยินเดินทยอยออกจากร้านกันไปจนหมด คุณยาโนทำได้เพียงแค่ยืนมองทั้งๆ ที่ภายในใจก็รู้สึกแค้น “โธ่เดี๋ยวฉันจะขายของที่ดี โดยไม่คำนึงถึงกำไรให้ดู” ด้วยเหตุนี้จึงเป็น การกล่าวปากต่อปาก เสียงเหล่านี้ที่ทำให้ “ไดโซ” เป็นที่รู้จักขึ้นมาได้

ต่อมาก็มีคนเข้ามาชักชวนให้ไปเปิดร้านขายบริเวณ ชั้น 4 ของซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างอยู่ อยากลองไปขายดูหรือเปล่า แต่คุณยาโนก็กลัวว่าที่ที่จะไปขายของนั้นเป็นพื้นที่ที่ไม่มีลูกค้า แต่ภายในร้าน สามารถวางสินค้าทิ้งไว้ได้ เมื่อเลิกงานพนักงานก็สามารถกลับบ้านได้ทันทีไม่ต้องให้พนักงานมาเตรียมของตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งถือว่าเป็นการลดงานของพนักงานได้อีกด้วย เมื่อได้แรงผลักดันขนาดนี้เเล้วจากที่ชั้น 4 ไม่มีลูกค้า ก็กลับมีจำนวนลูกค้ามากขึ้นหัวหน้าสาขาก็ได้ลงไปตะโกนเรียกลูกค้า “ร้านเราเป็นร้าน 100 เยน เมื่อซื้อสินค้า 100 เยนที่ชั้นล่างแล้ว อย่าลืมแวะขึ้นไปที่ชั้น 4 นะครับ” และในตอนนั้นสินค้าที่ขายดีก็จะถูกวางเรียงอย่างชัดเจนเมื่อลูกค้ามองสินค้าแล้วก็สามารถเลือกซื้อได้ง่ายหลังจากนั้นคุณยาโนจึงมีความคิดที่ว่าอยากจะเปิดร้านเป็นของตัวเองขึ้นมา

 

สู่การขยายสาขาไปทั่วประเทศ 47 สาขา ซึ่งไม่ได้มาจากความทะเยอทะยานแต่มันมาจากคนหลาย ๆ คนได้เห็นและได้ใช้สินค้าของ “ไดโซ” อีกทั้งต้องการสร้างความยำเกรงให้กับบริษัทคู่แข่ง เนื่องจากในโลกของการค้าขายในปัจจุบันนี้มีอัตราการเสี่ยงสูงถ้าสู้เขาไม่ได้ก็ล้มละลายถ้าเราเผลอเลอก็จะโดนคู่แข่งตีตลาดปัจจุบันนี้ทางบริษัทฯ จึงมีการออกบูธ 50-60 บูธต่อ ตอนที่เปิดร้านนั้นพนักงานได้บอกว่ามีลูกค้าได้เข้ามาพูดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยว่าขอบคุณมาก ๆ ที่เปิดร้านเช่นนี้ขึ้นมา

ปี 2002 ได้เริ่มขยายสาขาไปยังตลาดต่างประเทศ สินค้าของ “ไดโซ” จะสามารถใช้กับตลาดต่างประเทศได้หรือไม่ ? ความคาดหวังที่จะขายและความไม่มั่นใจ แต่ “ไดโซ” ก็ก้าวออกไปสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว การเปิดตลาด โดยเริ่มจากหนึ่งท่ามกลางความไม่รู้อะไรเลย ซึ่งจะต้องใช้ความเสี่ยงก็ยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันนี้พนักงานจำนวนหนึ่งที่อยู่มาก่อนก็ได้เลื่อนขั้นไปเป็นหัวหน้าสาขาในต่างประเทศ สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ แคนาดา เป็นต้น และสิ่งที่เป็นแรงผลักดัน ให้ “ไดโซ” ก้าวมาถึงทุกวันนี้คือ ความท้าทายที่จะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนรวมไปถึงการเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มีราคาที่หลากหลายมากขึ้น

ถึงเส้นทางความสำเร็จของเขาได้พบกับความล้มเหลวมากมายแต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ พร้อมลุกขึ้นสู้ใหม่ทุกครั้งด้วยกำลังใจที่แข็งแกร่งเสมอ ไม่เพิกเฉยต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ต้องใจกว้าง และพร้อมนำสิ่งที่ลูกค้าวิจารณ์ในแง่ลบมาปรับปรุงพัฒนาเพื่อลดข้อด้อยของตนเอง แม้ประสบความสำเร็จแต่ไม่เคยหยุดอยู่แค่รูปแบบเดิม ๆ จะต้องมีสินค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเสมอ เพื่อที่ลูกค้าจะได้อยู่กับเขานาน ๆ ถึงแม้ว่า Daiso จะมีสาขานับ 10,000 สาขาทั่วโลก แต่คุณยาโนยังคงมีความกังวลเรื่องลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาเชื่อว่าคนเรามักเบื่อง่าย

ท้อได้แต่อย่าถอย ติต้องฟัง ใจต้องกว้าง เมื่อลูกค้าวิจาร์ณสินค้าของเราในแง่ลบ นั่นหมายถึงสัญญาณเตือนว่าสิ่งนั้นอาจเป็นสาเหตุทำให้ธุรกิจไปไม่รอด ควรใช้หูฟัง สมองคิด และหาวิธีอุดรอยรั่วนั้นให้ได้

ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว พร้อมรับฟังและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วอาจจะมีเบื้องลึกที่คุณยังไม่รู้อยู่อีกมากมาย

 

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn