การโฆษณาบน Facebook เป็นตัวเลือกทางการตลาดออนไลน์ที่ดีมาก ที่ช่วยในเรื่องของ Brand Communication, Brand Awareness, Conversion และแม้แต่การเพิ่มยอดขาย แต่ก็ต้องบอกว่า การโฆษณา Facebook แต่ละประเภทก็ไม่ได้ให้ผลดีเท่ากัน ซึ่งบทความนี้เราอยากจะส่งต่อสิ่งที่ อย่าหาทำ หากคิดจะโฆษณาบน Facebook เพราะยิ่งทำก็ยิ่งจะผลาญงบไปแบบได้ไม่คุ้มเสีย
แสดงโฆษณาตลอดเวลา
คุณเคยเห็นโฆษณาในทีวีหรือวิทยุเล่นตลอดเวลารึเปล่า? ถ้าไม่ก็คือหลักการเดียวกับ Facebook นั่นคือ การโฆษณาที่ดี ไม่ควรใช้โฆษณาแบบเดียวกันทั้งวันและตลอดเวลา และถ้าคุณไม่ได้กำหนดว่าจะให้โฆษณาของเราแสดงบ่อยแค่ไหน ก็จะเสี่ยงต่อการโฆษณาให้กับคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายมากเกินไป และงานวิจัยจาก The Drum บอกว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเหนื่อยหน่ายกับการที่ต้องเห็นแคมเปญโฆษณาแบบเดิมภายในสามวันนับตั้งแต่เปิดตัว
เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ให้กำหนดเวลาที่จะให้โฆษณาแสดงผลที่สอดคล้องกับ online time ของกลุ่มเป้าหมาย เพราะถ้าแสดงโฆษณาได้แบบ right time, right person แล้วละก็ ยอดขายก็จะตามมาเอง
ใส่หน้า Landing page ที่ไม่เกี่ยวอะไรกันเลย
ต้องบอกว่าโฆษณาบน Facebook ที่ดีและน่าดึงดูด ก็เป็นแค่ครึ่งเดียวของการโฆษณาแบบมีประสิทธิภาพ เพราะสิ่งสำคัญอีกข้อก็คือ โฆษณาไปแล้ว คนมองเห็นแล้ว โฆษณานั้นพาลูกค้าไปที่ไหนต่อ?
โฆษณาที่ดีควรจะพาลูกค้าไปยังหน้า Lnading page ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือตัวโฆษณานั้นได้เลย ไม่ต้องเข้าไปที่ Homepage หรือหน้าอื่นๆ ที่ลูกค้าก็ต้องไปหาอีกว่ารายละเอียดของสินค้าจากโฆษณานั้นอยู่ที่ไหน ลองคิดดูง่ายๆ ว่าถ้าคุณขับรถอยู่บนถนนแล้วเจอป้ายโฆษณาที่ดีน่าดึงดูดมากๆ คุณอยากจะเลี้ยวรถไปเจอจุดขายเลย หรือว่าจะต้องไปวนหาที่จอดก่อน เพราะฉะนั้นหน้า Landing page ที่ดีมีผลมากๆ ต่อประสิทธิภาพการโฆษณาบน Facebook
แก้ไขแคมเปญโฆษณาบ่อยไม่จบไม่สิ้น
ถึงแม้ Facebook จะเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังมากแค่ไหนสำหรับการตลาดออนไลน์ แต่ไม่ได้หมายความว่า Facebook จะทำให้ทุกๆ แคมเปญโฆษณาของเราประสบผลสำเร็จได้ โดยเฉพาะการหมั่นเข้ามาแก้ไขแคมเปญแบบไม่เสร็จสักที เพราะระบบโฆษณาของ Facebook ใช้ระบบ Machine Learning ในการปรับผลลัพธ์ที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับแต่ละแคมเปญอยู่แล้ว และจะใช้เวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อรับข้อมูลมาหา Solution ที่ดีที่สุดสำหรับแคมเปญให้กับเรา ส่วนคนที่ใจร้อนชอบแก้ไขแคมเปญบ่อยๆ ก็อาจทำให้ระบบ Machine Learning เก็บข้อมูลได้ไม่เต็มที่ ทำให้นอกจากจะเสียเวลาต้องค่าแคมเปญบ่อยๆ ยังจะต้องเสียเงินค่าโฆษณาเพิ่มอีก
ไม่ยอมกดเปิดใช้งาน Facebook Automated Rules
แม้แต่แคมเปญโฆษณาที่ทำงานได้ดีที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปก็มีประสิทธิภาพลดลงได้ และถ้าหากว่าคุณไม่มีความสามารถในการตรวจสอบผลลัพธ์หรือกฎต่างๆ ของ Facebook อย่างต่อเนื่อง คุณก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการพลาดปัญหาสำคัญๆ ที่อาจนำมาสู่ค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นควรเปิดใช้ Facebook Automated Rules เพื่อเลี่ยงปัญหานี้ เพราะ Facebook Automated Rules จะช่วยให้เราสามารถปิดแคมเปญโฆษณาแบบอัตโนมัติ สามารถปรับงบแคมเปญหรือราคาที่ตั้งไว้ได้
ก็เหมือนที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นว่า เครื่องมือโฆษณาของ Facebook นั้นมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการโปรโมทสินค้าใหม่ๆ การค้นหา และการโฆษณาแบบวีดีโอ แต่ถ้าหากใช้งานแบบไม่ศึกษาให้ดีๆ เครื่องมือการตลาดที่ดีอย่าง Facebook ก็อาจกลายร่างไปเป็นเครื่องดูดงบโฆษณาของเราไปก็ได้
