กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันที สำหรับความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่ทุกวันนี้ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ในสนามรบเท่านั้น หลังจากเหล่าบรรดาชาติตะวันตกต่างก็งัดเอายุทธศาสตร์ “โลกล้อมรัสเซีย” มาใช้กดดันรัสเซียทุกวิถีทางเพื่อให้ยุติความรุนแรงกับยูเครน แต่ทว่าการกดดันที่ว่านั้นก็ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่เพียงแค่รัฐหนึ่งทำกับอีกรัฐหนึ่งเท่านั้น เพราะตอนนี้ไม่เว้นแม้แต่บริษัทชั้นนำทั่วโลกต่างก็กระโดดลงมาร่วมวงกดดันในครั้งนี้กับเขาด้วย
.
Apple
เริ่มกันที่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple ที่ออกมาประกาศว่าจะทำการยุติการขายผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงระงับใช้บริการอื่นๆของ Apple ในรัสเซียทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ทำการถอดแอปพลิเคชันรัสเซีย ทูเดย์ และสปุตนิก นิวส์ ออกจาก App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้มีการจำกัดการใช้งานของ Apple Maps ในพื้นที่ของยูเครนเพื่อปกป้องพลเรือนในยูเครนจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้
.
Meta
ด้าน Meta บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ก็ประกาศว่าจะทำการปิดกั้นการเข้าถึงสื่อของทางการรัสเซียในทั้งสองแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเฝ้าระวังและเพิ่มป้ายกำกับในเนื้อหาที่มีความล่อแหลมเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ทางการรัสเซียก็ได้ออกมาปิดกั้นการเข้าถึง Facebook ไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ Meta ปฏิเสธคำร้องขอของทางการรัสเซียที่ต้องการให้หยุดติดป้ายกำกับเนื้อหาในสื่อของทางการรัสเซีย
.
ไปต่อกันที่เว็บไซต์เสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google ก็ได้ออกมารับลูกร่วมกดดันรัสเซียกับเขาด้วย
โดยจะทำการปิดกั้นการเข้าถึงสื่อของทางการรัสเซียทั้งหมด รวมไปถึงการระงับการซื้อโฆษณาผ่านบริการต่างๆ ของ Google ด้าน YouTube อีกหนึ่งแพลตฟอร์มในเครือของ Google นอกจากการปิดกั้นสื่ออย่างที่ว่าไป YouTube ยังออกมาประกาศว่าจะมีการระงับการสร้างรายได้ในบัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับทางการรัสเซียอีกด้วย
.
หลังจากนี้เราคงจะต้องจับตาดูกันว่าบริษัทชั้นนำทั้งหลายเหล่านี้จะมีการเพิ่มมาตรการกดดันรัสเซียอีกต่อไปหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามจะเพิ่มหรือไม่เพิ่ม ท้ายที่สุดผลก็คงไม่พ้นประชาชนตาดำๆ ที่ต้องรับผลกรรมกันไป
