จะเกิดอะไรขึ้นถ้า “ลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เกิดตกหลุมรัก “เจ้าชายแห่งราชวงศ์อังกฤษ” Red, White & Royal Blue ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ Casey McQuiston ถูกนำมาเล่าใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ โดยผู้กำกับ Matthew López ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องความรักกุ๊กกิ๊กและการเมืองในเรื่องแล้ว ในชีวิตจริงภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเจอการเมืองจากคนฮอลลีวูดที่ต่างพากัน “นัดหยุดงาน” ในช่วงโปรโมทภาพยนตร์พอดี ทีมงานเขามีวิธีแก้ไขเรื่องนี้กันยังไงเดี๋ยว Ensure จะพาไปดู ลองคิดเล่น ๆ ก็ปวดหัวน่าดู อย่างที่ขึ้นหัวไว้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐฯเกิดตกหลุมรักเจ้าชายแห่งราชวงศ์อังกฤษ? แน่นอนถ้าเป็นคนทั่วไปเรื่องนี้ก็เป็นแค่ “เรื่องของคนสองคน” แต่ด้วยสถานะของทั้งคู่มันเลยมีเรื่อง “การเมืองระหว่างประเทศ” เข้ามาเกี่ยวด้วย ชาติหนึ่งก็ยึดถือในสิทธิ เสรีภาพ ส่วนอีกชาติดำรงไว้รากฐานของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ เพราะงั้นเรื่องนี้เลยยุ่งเป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวจะเป็นเพจรีวิวไปซะก่อน ที่ยกหนังเรื่องนี้มาคุยในวันนี้มันก็มีสาเหตุ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่มันน่าสนใจแล้ว ยังมีเรื่องของ “การตลาดบนโลกออนไลน์” ที่หนังเรื่องนี้เอามาใช้ที่ก็เจ๋งไม่แพ้กัน อย่างที่เกริ่นไว้ในช่วงต้นว่าช่วงที่กำลังโปรโมทหนังเรื่องนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับการประท้วงหยุดงานของบรรดาคนฮอลลีวูดพอดี ส่วนสาเหตุนั้นก็มีหลายเรื่อง ทั้งปัญหาหนังสตรีมมิ่งที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปัญหาค่าตัวที่ไม่เป็นธรรม แต่เรื่องที่มันจุดชนวนจนเป็นการนัดหยุดงานครั้งใหญ่จริง ๆ น่าจะมาจากที่เมื่อไม่นานนี้มีข่าวเรื่องการมาของ AI หลังมีข่าวบางสตูดิโอหัวหมอนำนักแสดงมาสแกนเข้าคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลนักแสดงไว้ใช้กับหนังเรื่องอื่น จนมันบานปลายนำไปสู่การนัดหยุดงานครั้งใหญ่ […]