คงมีหลายคนที่กำลังมองหาเคล็ดลับเพื่อให้คอนเท้นต์ที่จะโพสต์เกิดกระแสตอบรับและมีการมีส่วนร่วมจากผู้อ่านได้มากที่สุดแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มยังไงดี โดยเฉพาะในแพล็ตฟอร์มที่เรียกว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมที่สุดในไทยอย่าง Facebook ที่เราเล่นกันอยู่ทุกวัน แต่จะทำยังไงให้โพสต์เราได้กระแสตอบรับที่ดีที่สุดกันนะ วันนี้ทาง Ensure ของเรานำไกด์ไลน์ในการโพสต์ Facebook อย่างไร ให้ได้กระแสตอบรับดีที่สุดแบบที่เรียกได้ว่าอ่านง่าย กระชับ เข้าใจ สรุปย่อมาให้แล้วค่ะ    ยิ่งเขียนน้อย คนยิ่งสนใจ มีการสำรวจออกมาแล้วว่ายิ่งข้อความในโพสต์น้อยมากเท่าไหร่ ยิ่งสามารถดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้งานได้มากขึ้นถึง 66 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แนะนำให้ไม่ควรเกิน 80 ตัวอักษร หรือไม่เกิน 3 บรรทัด เพราะหากคุณจะโปรโมทโพสต์จะทำให้กดเพิ่มเติมในการอ่านและในจุดนี้ทำให้ผู้อื่นลดความสนใจลงได้ ดังนั้นควรเขียนให้กระชับจบได้ภายใน 3 บรรทัดนะคะ   เวลาในการโพสต์ก็สำคัญ เราได้มีการสรุปจากข้อมูลในปี 2020 ออกมาแล้วว่าเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการโพสต์บน Facebook นั้นควรจะเป็นช่วง 13.00 – 16.00 น. หรือ 18.00 – 20.00 น. ในวันอังคาร วันพฤหัส วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ จะมีเปอร์เซ็นต์ได้รับเอนเกจเม้นท์ที่ดีที่สุด  ลองเซ็ตโพสต์ในวันเวลาดังกล่าวเพื่อทดสอบดูได้นะคะ และจำนวนการโพสต์ต่อวันที่เหมาะสมคือประมาณวันละ […]

        ทุกวันนี้การโปรโมทสินค้าสามารถเกินขึ้นได้ในโซเชียลมีเดียทุกแพล็ตฟอร์ม โดยเฉพาะในแอปพลิเคชั่นไหนที่มีจำนวนผู้เล่นมากนั่นก็แปลว่าสามารถหาลูกค้าเพิ่มได้มากขึ้นนั่นเอง          หนึ่งในนั้นคือ Instagram ที่มีจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกรวมกว่าพันล้านบัญชีเลยทีเดียว หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือ story IG ที่มีระยะเวลาจำกัดของแต่ละสตอรี่คือ 24 ชั่วโมงที่สามารถดึงดูดให้ผู้ติดตามหรือผู้เล่นคนอื่นเข้ามาดูสตอรี่ของเราได้ และฟีเจอร์นี้ไม่ได้ฮอตฮิตแค่กับผู้ใช้ทั่วไปเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ทำการค้าขายหรือมีร้านค้าก็นำประโยชน์จาก story มาเป็นเครื่องมือในการเพิ่มลูกค้าและเพิ่มยอดขายด้วยเช่นกัน ! และวันนี้ทาง Ensure ของเราอยากแนะนำ 5 เคล็ดลับช่วยกระตุ้นให้คนสนใจ story IG เพิ่มขึ้น    1. วิแรกต้องดึงดูดความสนใจ ช่วงอินโทรของ story ควรมีความดึงดูดสายตาให้ผู้ใช้มีความต้องการที่จะดูเนื้อหาสตอรี่ของคุณต่อ โดย 2 อย่างที่เป็นที่นิยมทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าติดตามนั่นคือปัญหาหรือจุดขายว่าทำไมควรซื้อสินค้าของคุณ และอีกอย่างคือโชว์ผลลัพธ์หลังการใช้ขึ้นก่อน ก็จะทำให้ผู้ใช้อยากติดตามด้วยเช่นกัน   2. ใช้งาน Hashtag ให้เป็นประโยชน์ รู้หรือไม่ว่าผู้คนสามารถค้นหาสตอรี่โดยใช้แฮชแท็กได้เช่นกัน และสตอรี่ที่มีแฮชแท็กนั้นมีเกณฑ์เข้าถึงและมีผู้ชมมากกว่าสตอรี่ที่ไม่ใส่แฮชแท็กด้วยเช่นกันนะคะ  ถ้าหากคุณไม่อยากให้แฮชแท็กบังเนื้อหาคอนเท้นต์สตอรี่ของคุณ ลองใส่แฮชแท็กไว้ที่ส่วนล่างของสตอรี่ หรือลองปรับสีฟ้อนต์ให้กลืนกับพื้นหลังก็ได้เหมือนกันนะ   3. […]

เรียกได้ว่าทุกวันนี้โลกของเรานั้นเป็นโลกแห่งการขับเคลื่อนด้วยโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีที่มีพัฒนาอย่างไม่มีสิ้นสุดเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าคนส่วนมากก็มักจะหยิบมือถือของตัวเองมาเช็คและอัปเดตข่าวสารก่อนการล้างหน้าแปรงฟันซะอีก !  และนั่นทำให้การค้าขายรวมถึงธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะบนช่องทาง social media ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เช่น Facebook, Youtube, Twitter, Instagram รวมถึง Tiktok นิยมเลือกใช้ Influencer เป็นทางเลือกในการโปรโมทสินค้าหรือร้านค้า เพราะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากทีเดียว   Influencer คืออะไร ? อินฟลูเอ็นเซอร์หรือผู้มีอิทธิพลบนโลกโซเชียล หรือผู้ที่มีคนติดตามเยอะในแต่ละแพล็ตฟอร์ม สังเกตได้ว่าเวลาคนดังบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ  เช่น บน Facebook โพสต์อะไรก็จะมีคนกดไลค์กดแชร์ หรือเวลาเป็นสินค้าหรือร้านอาหารและคาเฟ่ ผู้คนก็จะสนใจอยากลองซื้อหรืออยากลองไปบ้าง และการโปรโมทสินค้าและบริการผ่านเหล่าอินฟลูช่วยให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าอิทธิพลจากอินฟลูช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ให้กับคนที่ทำธุรกิจเป็นอย่างดี ซึ่งขนาดจำนวนผู้ติดตามก็สามารถแบ่งระดับเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์อย่างคร่าว ๆ ก็คือ Macro Influencer คือบุคคลที่มีผู้ติดตาม 100,000 Followers ขึ้นไป Micro Influencer คือบุคคลที่มีผู้ติดตาม 5,000 – 100,000 Followers Nano Influencer คือบุคคลที่มีผู้ติดตาม […]

ทุกวันนี้การทำธุรกิจต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นนับว่าเป็นที่นิยมอันเป็นอย่างมาก เพราะการซื้อขายทางออนไลน์เป็นช่องทางที่นับว่าสะดวกสบายจนทำให้ธุรกิจหลายธุรกิจเติบโตและงอกเงยขึ้นมาจำนวนมาก  และเมื่อมีคู่แข่งจำนวนมาก ทำยังไงลูกค้าถึงจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านของคุณล่ะ ? นั่นแปลว่าร้านของคุณนอกจากจะมีสินค้าหรือบริการตามที่ผู้บริโภคต้องการแล้ว ยังต้องมีความน่าเชื่อถือ และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ จากการมองหาด้วยนั่นเอง มีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของคนที่ทำธุรกิจออนไลน์ เพราะในทุกวันนี้เรามักค้นหาสินค้าต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ค้นหาอย่าง Google รวมถึงช่องค้นหาผ่านทางเฟซบุ๊ก และมักจะเลือกดูและซื้อจากร้านที่ผลการค้นหาแสดงเป็นอันดับต้น ๆ  วันนี้ทาง Ensure ของเราเลยอยากมาแนะนำวิธีทำให้เพจเฟซบุ๊กแสดงผลเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อลูกค้าค้นหาคำใน Keyword สำคัญต่าง ๆ กันค่ะ 1. ตั้งชื่อเพจให้จำง่าย ชื่อเพจควรเป็นชื่อเฉพาะของร้านโดยเป็นคำที่จำง่าย ติดหู และไม่ยาวจนเกินไป และถ้าจะให้ดีอาจจะมีคำแนะนำว่าร้านของคุณขายอะไรตามหลัง เช่น  (ชื่อร้าน) อาหารเสริม ของแท้  2. ใส่ Keyword ในข้อมูลเกี่ยวกับรวมถึงโน้ต Keyword คือคำสำคัญที่มักจะถูกค้นหา ซึ่งควรนำมาใช้ในการบรรยายข้อมูลของสินค้าในเพจของคุณ สามารถเขียนแนะนำได้ในส่วนของข้อมูล, เกี่ยวกับ และโน้ตที่มักจะอยู่ทางด้านขวาของเพจ […]

การโพสต์ให้ได้รับเอนเกจเม้นต์เยอะนั้นไม่ได้อาศัยเพียงแค่เนื้อหาคอนเท้นต์ที่ต้องถูกใจหรือเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน รวมถึงภาพประกอบสวย ๆ แต่เพียงอย่างเดียว หนึ่งในอาวุธลับสำคัญในการเรียกผู้อ่านหรือเรียกลูกค้านั่นก็คือการโพสต์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมและทำให้คนเห็นเยอะที่สุดนั่นเอง วันนี้เรามีผลวิจัยจาก blog2social.com ที่รวบรวมข้อมูลผู้ใช้งานในแพล็ตฟอร์มต่าง ๆ ในปี 2020 จากผู้ใช้งาน 60,000 คนทั่วโลก โดยอาศัยจากทั้งช่วงเวลาในการโพสต์และผลของการมีส่วนร่วมในโพสต์ต่าง ๆ และนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลว่าการโพสต์ในเวลาไหนจะได้ประสิทธิภาพและได้รับผลตอบรับอย่างดีที่สุด ! มาดูกันเลยค่ะ   เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการโพสต์บน Facebook  จำนวนการโพสต์ต่อวันที่เหมาะสม : ประมาณ 2 โพสต์ วันที่เหมาะกับการโพสต์  : วันอังคาร วันพฤหัส วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์  เวลาที่ควรโพสต์ : 13.00 – 16.00 น. , 18.00 – 20.00 น. โพสต์แบบไหนคนถึงจะมีส่วนร่วมกับโพสต์มากที่สุด ? โพสต์ช่วงบ่ายโดยเฉพาะช่วง 15.00 – 16.00 น. ถ้าโพสต์ในวันทำงานควรโพสต์ก่อนบ่าย 2    […]

ทุกวันนี้การมีธุรกิจส่วนตัวนั้นกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่เราเห็นได้เยอะในโซเชียลมีเดียแพล็ตฟอร์มต่าง ๆ แถมด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในช่วงนี้ยิ่งทำให้คนไม่ค่อยได้ออกไปไหน และหันมาใช้บริการซื้อขายออนไลน์กันมากขึ้น แน่นอนว่าเมื่อการขายออนไลน์ได้รับความนิยมก็ต้องมีผู้ขายหรือแบรนด์ต่าง ๆ ถูกก่อตั้งมากขึ้นด้วยเช่นกันจนทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก  แล้วเราจะทำอย่างไรให้แบรนด์หรือสินค้าของเรามีความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นกันล่ะ ?   วันนี้ทาง Ensure มีเคล็ดลับง่าย ๆ มาแบ่งปันสำหรับใครที่อยากเริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง หรืออยากพัฒนาแบรนด์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก    1. ทำการศึกษาง่าย ๆ โดยเริ่มจากตัวเองก่อน ก่อนเริ่มสร้างแบรนด์หรือรับสินค้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาขายควรถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่าคุณมีความชอบด้านใดหรือสนใจด้านไหนเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ว่าเห็นสินค้าที่กำลังเป็นกระแสแล้วอยากลองนำมาขายบ้าง แต่กลายเป็นว่าพอต้องขายจริงกลับไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือให้คำปรึกษากับผู้ซื้อไม่ได้  ลองสำรวจความสนใจและความชอบของตัวคุณเองว่าเหมาะกับสินค้าประเภทไหน จากนั้นลงมือศึกษาให้เต็มที่ 2. เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขายสินค้า เมื่อได้แนวสินค้าที่ต้องการขาย ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือการวางแผนว่าสินค้าของคุณนั้นเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหนบ้าง โดยอาจจะลองกำหนดอายุ, เพศ, ความชอบของกลุ่มเป้าหมายโดยคร่าว ๆ ว่าคุณกำลังจะขายสินค้าให้กับคนกลุ่มใด เมื่อลองคิดข้อมูลเหล่านี้แล้วจะช่วยให้คุณทำการโปรโมทหรือคิดโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้นมากเลยล่ะ  3. สร้างตัวตนให้กับแบรนด์ของคุณ การสร้างตัวจะทำให้แบรนด์ของคุณมีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นมากขึ้น ตัวอย่างการสร้างตัวตนให้กับแบรนด์คือ หากคุณต้องการขายสกินแคร์สำหรับผู้หญิง ตัวตนของแบรนด์คุณอาจจะตั้งชื่อแบรนด์ที่ฟังดูติดหูแต่ยังแฝงความมีสเน่ห์ไปด้วย รูปและโพสต์ของสินค้าที่ใช้ในการโปรโมทอาจถ่ายออกมาอย่างมีสไตล์ให้เข้ากับผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจมีความรักสวยรักงามและรักตัวเอง สิ่งเหล่านี้คุณอาจจะลองคิดชื่อหรือแนวภาพตัวอย่างให้กับสินค้าของคุณ ยิ่งการคุมโทนพร้อมกับโลโก้สวย ๆ แล้วละก็ รับรองว่าลูกค้าจำแบรนด์ของคุณได้ขึ้นใจแน่นอนค่ะ 4. เพิ่มเนื้อหาที่สามารถโยงไปถึงแบรนด์ของคุณได้ การสร้างแบรนด์สินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ไม่จำเป็นว่าเราต้องเน้นการขายเพียงอย่างเดียว คุณสามารถลงเนื้อหาบทความหรือคอนเท้นต์ต่าง ๆ […]

สำหรับชื่อของ Google แน่นอนว่าใครๆ ก็รู้จักกันดี แต่สำหรับ Google My Business อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก และในครั้งนี้คือการเปิดเผยยุทธวิธีของการทำให้ Google My Business ของเรา สามารถถูกค้นหาเจอได้บน Search Engine อย่าง Google Google My Business คืออะไร เหมาะสำหรับใคร? Google My Business คือเครื่องมือสำหรับเจ้าของกิจการที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลผ่านทาง Google แล้วเจอข้อมูลหน้าร้านของเราได้แบบทันที เช่น ค้นหาร้านซ่อมโทรศัพท์ ในทำเลลาดพร้าว ถ้าหากเราใช้ Google My Business ก็จะทำให้ลูกค้าเพิ่มร้านของเราเป็นตัวเลือกในการใช้บริการได้ ข้อดีของการใช้ Google My Business เปลี่ยน Intender สู่ Purchaser ลองหลับตาแล้วนึกถึงภาพตัวเองในขณะที่กำลังต้องการข้อมูลบางอย่างมากๆ เราหยิบสมาร์ทโฟนและเปิดการค้นหาบน Google เพื่อให้ทราบคำตอบอย่างเร็วที่สุด ภาวะในตอนนั้นคือภาวะที่เรากำลังมี Intent หรือความต้องการสูง เช่นเดียวกับเมื่อตอนที่ลูกค้ากำลังต้องการหาหน้าร้าน […]

‘ภาพ’ คือสิ่งสำคัญสำหรับการทำการตลาดในยุค Digital Marketing ที่จะช่วยฉุดรั้งสายตาของกลุ่มเป้าหมาย และเชื้อเชิญให้คนเข้ามาสัมผัสกับสินค้าและแบรนด์ของเราได้มากขึ้น  และแน่นอน เครื่องมือที่สำคัญที่นิยมทำการตลาดในปัจจุบันอย่าง LINE เอง ก็มีขนาดภาพเฉพาะของตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ลองมาดูกันว่า ขนาดภาพของ LINE ควรมีขนาดเท่าไร และควรใช้ตอนไหนดี?   ขนาดรูป LINE ทั่วไป รูปโปรไฟล์ (Profile Picture) ขนาดที่แนะนำคือ 168×168 px  รูปปก (Cover Image) ขนาดที่เหมาะสมคือภาพแนวตั้งขนาด 720 x 1280 px โดยควรวาง message ที่ต้องการสื่อใน Safe zone ขนาด 720 x 978 px บริเวณกลางภาพ รูปที่ใช้ส่งภายในแชท มีหลายขนาด แต่ภาพที่ดูแล้วจะสามารถดึงดูดให้คนกดดูได้มากที่สุด ได้แก่ ขนาดแนวตั้ง 3:4 1200 x 1600 […]

  ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ ก็ควรที่จะรู้จักสิ่งที่เรียกกันว่า P.O.E.M หรือ Paid/Own/Earn Media เพราะเป็นส่ิงที่ถูกแบ่งจากการที่ แบรนด์ ธุรกิจ หรือองค์กร ได้รับการพูดถึง แต่จริงๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้มันต่างกันอย่างไรในโลกของ Online Media?   Paid media , Own media และ Earned Media คืออะไร?  ว่ากันง่ายๆ Paid media , Own media และ Earned Media ก็คือสิ่งที่ใช้ในการจัดการ บริหาร หรือผลิตคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับแบรนด์ บริการ หรือสินค้าต่างๆ ซึ่งทั้งสามสิ่งแตกต่างกันแค่วิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือผู้คน Paid media แปลตรงตัว ก็คือสิ่งที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อแลกกับการถูกพูดถึง Own Media  คือสื่อที่แบรนด์บริหารจัดการเอง เป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว Earned Media คือสื่อที่แบรนด์ได้รับการพูดถึงจากคนอื่น ความแตกต่างของทั้ง […]

ถ้าให้นึกถึงเครื่องมือทำการตลาดที่เรียกได้ว่าทรงอานุภาพมากที่สุดในช่วงเวลานี้ หลายคนคงต้องมีภาพของ Facebook Ads อยู่ในหัวกันอย่างแน่นอน แต่หลายคนก็ยังติดกับดักหลุมพลางของการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะคิดว่าการทำ Facebook Ads คือการตั้งแคมเปญและยิงโฆษณาเท่านั้น เพราะฉะนั้น  มาปรับความคิดกันใหม่ แล้วมาย้อนดูว่า ตัวเราเองตกหลุมพลาง 5 ข้อของความเข้าใจแบบผิดๆ เกี่ยวกับ Facebook Ads อยู่รึเปล่า?   Facebook Ads มีสูตรตายตัว มักจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Facebook Ads ว่าจะสามารถกำหนดแคมเปญโฆษณาแบบตายตัวได้เลย ซึ่งจริงๆ แล้ว มันห่างไกลจากความจริงไปพอสมควร เพราะถ้าจะว่ากันไปแล้ว การทำ Facebook Ads ก็เป็นแค่หนึ่งในกระบวนการทางการตลาด ที่ไม่มีสูตรสำเร็จแบบสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นการปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์ ก็จะช่วยปรุงให้อร่อยและถูกปากคนกินได้อย่างแท้จริง   สร้าง Facebook Ads ไม่ได้ทำผ่านแอปอย่างเดียว หลายคนจะคุ้นเคยกับการสร้างโฆษณาด้วยเครื่องมือ Facebook Ads ผ่านแอป Facebook อย่างเดียว โดยเฉพาะปุ่ม Boost post ที่ยั่วยวนให้เรากดซะเหลือเกิน แต่จริงๆ […]