ยกเลิกการสอบเข้า ป.1 สมควรหรือไม่

ในทุกๆปีช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างเด็กอนุบาลกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยประถมศึกษา ช่วงฤดูกาลสอบคัดเด็กเข้าเรียน มีเด็กนักเรียนมากกว่า 1 พันคนต้องแข่งขันกับเพื่อเข้าโรงเรียนที่ผู้ปกครองคาดหวังไว้ซึ่งรับเด็กเพียงแค่จำนวน 100 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้เกิดการติวเด็กเล็กเพื่อสอบเข้า ทุ่มเทกับแต่เพียงเรื่องเรียนและละเลยสิ่งอื่น นอกจากนี้ เด็กที่ไม่ถูกคัดเลือกพวกเขาจะหายไปไหนกันล่ะ ยกเลิกการสอบเข้า ป.1 สมควรหรือไม่ เด็กเล็กไม่สมควรสอบ ช่วงวัยเด็กเล็กตั้งแต่ 0-8 ปีเป็นวัยที่ไม่ควรจะมีการสอบเลย ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้าหรือสอบในระหว่างชั้นเรียน เพราะในวัยเหล่านั้นเป็นวัยที่สมองกำลังมีการพัฒนา เป็นวัยสำคัญแห่งการเรียนรู้และเติบโตของเด็ก เป็นวัยที่พวกเขาสมควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กทั่วๆไป มิใช่ต้องนั่งตรากตรำท่องตำราเพื่อเรียนรู้ อีกอย่างเด็กๆ ทุกคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน การใช้วิชาการมาเป็นตัวชี้วัดว่าพวกเขาเก่งพอหรือไม่ในการเข้าโรงเรียนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง พวกเขาควรจะได้ใช้ชีวิตสมวัย เน้นเรียนตั้งแต่วัยเด็กคือภัยเงียบในอนาคต ผู้ปกครองล้วนคาดหวังอยากจะให้ลูกของพวกเขาได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดและนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การสนับสนุนให้เด็กๆใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาต้องการโดยไม่คำนึกถึงวัยเด็กเล็กที่พวกเขาสมควรจะเป็น ความกดดันที่ได้รับผ่านจากการส่งเสียบังคับให้ตั้งใจอ่านตำราเพื่อเตรียมเรียนป.1 ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย การเน้นให้เด็กเรียนมากจนเกินไปนั้นเป็นสิ่งที่จะมีผลเสียตามมาต่อตัวของเด็กคนนั้นอย่างแน่นอน อีกหนึ่งทางเลือกที่จะมาแทนยกเลิกการสอบเข้า ป.1 ได้คือการสอบผู้ปกครองแทน และสอบถึงความสามารถในการเลือกลูกว่าสามารถเลี้ยงลูกของพวกเขาได้ดีหรือไม่ การเน้นเรียนตั้งแต่วัยเด็ก ส่งเสียให้เรียนพิเศษตั้งแต่เข้าอนุบาลนั้นเป็นภัยเงียบที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเด็กเองได้ในอนาคต แม้จะมีตัวอย่างเด็กที่เก่งในด้านการเรียนและครอบครัวทั้งหลายต่างคาดหวังให้ลูกของพวกเขานั้นเรียนหนังสือได้ดี แต่ใช่ว่าเด็กทุกคนมีความสามารถเหมือนกัน การเน้นให้สนใจแต่เรียนมากจนเกินไปจะทำให้เด็กขาดทักษะชีวิตและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาการฆ่าตัวตายเนื่องจากความกดดันด้านการเรียนได้ในอนาคต ยกเลิกการสอบเข้า ป.1 สำหรับเด็กเล็กนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสมควรอย่างยิ่งแก่ตัวเด็กเอง เพราะพวกเขาคือเด็กและเด็กก็ควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างวัยเด็ก มิเช่นนั้นถ้าหากเน้นแต่การเรียน เด็กที่เป็นอนาคตของชาติจะสามารถเรียนรู้ทักษะชีวิตได้จากที่ใดกัน  

ห้องเรียนส่งตรงจากญี่ปุ่น โรงเรียนสำหรับคนสัญชาติญี่ปุ่นในไทย

ในประเทศไทยเรานั้น มีบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนที่ประเทศไทยมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นที่มาลงทุนตั้งบริษัทอยู่ที่ประเทศไทย โดยเฉพาะที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่ตอนนี้ได้ค่อยๆพัฒนากลายเป็นเหมือนสังคมเมืองญี่ปุ่นเล็กๆ มีคนญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ที่นี่มากมาย และยังมีโรงเรียนสำหรับคนสัญชาติญี่ปุ่นในไทยโดยเฉพาะอีกด้วย เป็นห้องเรียนส่งตรงจากรัฐบาลญี่ปุ่นเลยทีเดียว โรงเรียนสมาคมไทย–ญี่ปุ่น ศรีราชา โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ศรีราชา จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมให้การศึกษาสำหรับเด็กสัญชาติญี่ปุ่นในไทยโดยเฉพาะ นอกจากนี้อีก โรงเรียนนี้ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ทั้งครูและระบบการศึกษานั้นก็เทียบเท่า การศึกษาขั้นพื้นฐานของญี่ปุ่น และไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้นเอง ญี่ปุ่นยังมีการสร้างโรงเรียนสำหรับเด็กญี่ปุ่นทั่วโลก ตามประเทศที่ญี่ปุ่นได้ไปลงทุน เพื่อช่วยเด็กญี่ปุ่นนั้นได้ปรับตัว เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศตัวเอง ภาษาตัวเอง รวมทั้งยังเป็นช่องทางทำให้สามารถไปศึกษามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นได้อีกด้วย การจัดตั้งโรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น นั้นเป็นการสนับสนุนการศึกษาจากทางรัฐบาลที่เล็งเห็น ความสำคัญของการศึกษาของเด็กๆ เห็นความสำคัญในการสร้างและพัฒนาบุคลากรในประเทศของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ญี่ปุ่นฉลาดในการเล็งเห็นส่วนหนึ่งเป็นอย่างมากที่ได้ลงทุนพัฒนาคนและพัฒนาการศึกษา ไม่เพียงแค่เปิดสอนสำหรับเด็กสัญชาติญี่ปุ่นทั่วไปเท่านั้น โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ยังได้มีการเปิดสอนพิเศษภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่สนใจเรียนอีกด้วย กลายเป็นเหมือนเมืองญี่ปุ่นเล็กๆ ที่ศรีราชา ในเขตอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นั้นเป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นมาลงทุนอยู่เป็นจำนวนมากและได้มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ มีร้านค้าภาษาญี่ปุ่นมากมาย ชุมชนเล็กๆ คนไทยที่อยู่เขตนี้ก็สามารถอยู่ร่วมกับคนญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี แถมคนญี่ปุ่นนั้นก็ถูกใจอาหารไทย อาหารประจำชาติอีกด้วยซึ่งช่วยส่งเสริมการค้าขายในเขตศรีราชาได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่ได้มีการพัฒนาเมืองที่ดูก้าวไกลมากนัก แต่อำเภอศรีราชานั้นก็ เป็นพื้นที่ค้าขายที่ดีมากๆพื้นที่หนึ่งไม่แพ้จากในเมืองเลยล่ะ ไทยและญี่ปุ่นนั้นต่างมีประวัติที่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนที่ประเทศไทยเป็นจำนวนมากและมีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในไทยเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวในทุกวันนี้ โดยเฉพาะที่ศรีราชาที่เริ่มกลายเป็นเหมือน ชุมชนเมืองญี่ปุ่นเล็กๆ ร้านค้า ร้านอาหารมีป้ายภาษาญี่ปุ่น และแถมยังมีโรงเรียนญี่ปุ่นโดยเฉพาะเอง […]