ความสำเร็จของ ‘ Warren Buffett ‘ เศรษฐีพันล้านผู้มีสินทรัพย์เยอะเป็นอันดับ 3

“ยิ่งรู้จักขอบคุณและแบ่งปันความสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขามีทรัพย์สินมากขึ้นเท่านั้น” หากพูดถึง Warren Buffett หรือ เศรษฐีพันล้านผู้มีสินทรัพย์เยอะเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2018 ซึ่งถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes แน่นอนว่าเราต้องทึ่งในพรสวรรค์แห่งการเป็นนักลงทุนของเขา Warren Buffett ได้เล่าถึงการลงทุนครั้งแรกของเขาในปี 1942  ในวัย 11 ปี เขาใช้เงิน 114.75 ดอลลาร์ที่เขาเก็บมาตั้งแต่เกรด 1 เพื่อซื้อหุ้น 3 หุ้นของบริษัทน้ำมัน Cities Services เขาได้เขียนถึงความรู้สึกในตอนนั้นไว้ด้วยว่า “ ผมกลายเป็นนักลงทุนและก็รู้สึกดีกับมันมาก ๆ ” Warren ได้เขียนบรรยายถึงความรู้สึกขอบคุณกับทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้น การรู้จักขอบคุณนั้นดีกว่าการหยิ่งในศักดิ์ศรีและโอ้อวดข่มคนอื่นว่าตนเองเป็นทำงานให้สำเร็จได้ด้วยตนเอง และเป้าหมายของเขาก็คือการแบ่งปันความสำเร็จและเพิ่มพูนโอกาสให้กับประเทศอื่นอีกด้วย เพราะเขาเชื่อว่าการแบ่งปันจะไม่ได้ช่วยให้ประเทศอื่นดีขึ้น แต่ยังคงช่วยให้อเมริกาเองประสบความสำเร็จมากขึ้นอีกด้วย “ชาร์ลีและผมรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก เพราะความสำเร็จของBerkshireนั้น เป็นสิ่งที่ผมควรเรียกว่า The American Tailwind” ( Tailwind คือลมที่พัดไปทางเดียวกับเครื่องบินเลยทำให้ถึงที่หมายง่ายขึ้น เปรียบเสมือนได้รับการสนับสนุนดี ๆ นั่นเอง ) ซึ่งมันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่ากว่าความเย่อหยิ่งของธุรกิจในอเมริกาที่จะมาคุยโม้โอ้อวดว่าทำงานด้วยตัวของคุณเองโดยลำพัง “มีหลายประเทศในโลกที่กำลังก้าวไปในทางที่ดีขึ้นและมีอนาคตที่ดีซึ่งเราควรจะยินดีกับพวกเขา […]

“จุดไฟ” ในตัวเอง

ถ้าเปรียบเทียบ กับ วัตถุ คนนั้นแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ติดไฟได้… ไม่ติดไฟ… และลุกไหม้ได้เอง… วัตถุที่ติดไฟจะลุกไหม้เมื่อเข้าสัมผัส กับ เปลวไฟ วัตถุที่ไม่ติดไฟจะไม่มีทางเกิดการเผาไหม้แม้จะเข้าสัมผัส กับ เปลวไฟ ส่วนวัตถุที่ลุกไหม้ได้เองนั้นจะมีการเผาไหม้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเข้าสัมฝัส กับ เปลวไฟ คนเราก็เช่นกัน… คนบางกลุ่มสามารถจุดไฟแห่งความกระตือรือร้นขึ้นมาได้เองโดยไม่ต้องมีใครมาเติมเชื้อเพลิง… อีกกลุ่มสร้างความกระตือรือร้นได้ด้วยการเข้าใกล้กลุ่มคนที่เป็นดั่งเชื้อเพลิง… ส่วนอีกกลุ่มไร้ซึ่งความกระตือรือร้นโดยสิ้นเชิง… คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เป็นคนที่มีไฟในตัวเอง… และยังสามารถส่งต่อพลังงานเชื้อเพลิง สร้างความกระตือรือร้นให้คนรอบตัวได้อีกเสียด้วย… ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนประเภทใด… จงคบหาสมาคมกับกลุ่มคนที่เป็นดังวัตถุที่ลุกไหม้ได้เอง เพราะเขาเหล่านั้นจะช่วยส่งต่อพลังงานเชื้อเพลิง สร้างความกระตือรือร้นให้กับตัวคุณ… และจงหลีกเลี่ยงกลุ่มคนที่เป็นดั่งวัตถุที่ไม่ติดไฟ เพราะเขาเหล่านั้นนอกจากจะนิ่งเฉยจากแรงกระตุ้นรอบกาย ยังจะทำให้คุณนั้นเย็นชาจนหมดไฟตามไปด้วย… ขอขอบคุณข้อมูลจาก… “ช้าให้ชนะ” โดย คาซุโอะ อินาโมริ เรียบเรียงโดย… ดร.หฤษฎ์ อินทะกนก

ทิ้ง 9 สิ่งนี้ ชีวิตรุ่งแน่

1. ความคิดว่า… ความสำเร็จอยู่ที่โชคชะตา สิ่งนี้ทำให้เกิดอาการ “รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง” อะไรไม่ได้อย่างใจนึกคิด มักจะโยนความผิดให้สิ่งแวดล้อม ไม่มีใคร หรือ อะไร ทำให้คุณดี หรือ แย่ได้ นอกจากตัวคุณเอง 2. ความคิดว่า… เราถูกเราเก่ง การที่มี Ego หรือ อัตตา (ความถือตนเองเป็นสำคัญ) นั้นไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่ถ้ามีมากจนเกินไป อาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาตนเองได้ การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น และการฟังผู้อื่น จะช่วยให้คุณเรียนรู้มากขึ้น 3. ความคิดว่า… ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ความพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีนั้นมีประโยชน์ แต่ความผิดพลาดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง และทำความเข้าใจว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกใบนี้ จะช่วยให้การเดินทางสู่ความสำเร็จมีความสุขมากขึ้น 4. ความคิดว่า… ต้องเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น เราควรนำความสำเร็จของผู้อื่นนั้นมาเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ข้อเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบทำให้เรานั้นมองทุกอย่างที่ผลลัพธ์ ซึ่งความมุมานะพยายามซึ่งให้ได้มาในผลลัพธ์นั้น อาจสำคัญกว่า 5. ความรู้สึกว่า… ต้องทำเฉพาะสิ่งที่ตนรักเท่านั้น บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักพูดว่า “ทำในสิ่งที่ตนรัก” แล้วจะรุ่ง ซึ่งไม่ผิด แต่ในรายละเอียดของงาน เราอาจจะต้องทำในสิ่งที่เราไม่ชอบบ้าง จงทำความเข้าใจในสิ่งนี้ 6. ความรู้สึกว่า… ต้องรีบลงมือทำทันที การตั้งมั่นที่จะลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยความรวดเร็วนั้นดี แต่การวางแผนนั้นก็มีความสำคัญอย่างมาก […]

5 บุคคลจากเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยสู่ บุคคลสุดยอดประสบความสำเร็จ

บทความนี้ไม่ใช่บทความขายความฝัน แต่เป็นบทความที่จะบอกเล่าเรื่องราวของทัศนคติและความคิดจากบุคคลสุดยอดประสบความสำเร็จ 6 คน ที่จากเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยว่าพวกเขาทำอย่างไรกันถึงสามารถแสวงหาความสำเร็จได้ และแนวคิดของพวกเขาเหล่านี้ก็สามารถนำไปใช้ได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเรียนจบหรือเรียนไม่จบ คุณก็มีโอกาสที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน   1.Bill Gates บิล เกตส์ มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 91.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จในการก่อตั้ง Microsoft เขาเคยเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย Harvard ในปีค.ศ.1973 ก่อนจะดรอปออกจากมหาวิทยาลัยใน 2 ปีให้หลัง เพื่อที่จะมาทำบริษัท Microsoft และการตัดสินใจครั้งนั้นของเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนั้นทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้   2.Steve Job สตีฟ จ็อบบ ในวันที่มีชีวิตอยู่เขามีรายได้สุทธิอยู่ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวัย 19 ปี เขาได้ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยโดยให้เหตุผลว่า มันเป็นภาระทางการเงินที่มากเกินไป ในช่วงที่เขาลาออกมา เขาก็ได้เริ่มมีความคิดที่จะสร้าง Mac ซึ่งต่อมาจากการเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่และท้ายที่สุดก็ได้เป็น CEO ของบริษัทตนเองอย่าง Apple   3.Ralph Lauren ราฟ ลอเร้น แฟชั่นดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า POLO Ralph Lauren ชื่อก้องโลก […]

7 ประโยคสร้างแรงบันดาลใจสุดว้าวจาก Robert Downey Jr

รอเบิร์ต จอห์น ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr) นักแสดงชาวอเมริกันที่โด่งดังในบทบาท Iron Man และ Sherlock Homles แต่ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงที่ดังขนาดนี้ได้นั้น เขาเคยได้ผ่านประสบการณ์ที่ลำบากอย่าง การต้องติดคุกมาก่อน หลังจากประสบการณ์นั้นทำให้เขาได้พบบทเรียนสำคัญแห่งชีวิตในเรื่อง การอย่ายอมแพ้ไม่ว่าจะเจอสิ่งใดที่ยากแค่ไหนก็ตาม มาอ่าน 7 ประโยคสร้างแรงบันดาลใจสุดว้าวจาก Robert Downey Jr กันเถอะว่ามีอะไรบ้าง 1.ขอเพียงอย่ายอมแพ้ สถานการณ์ที่ยากลำบากจะผ่านไปได้เอง “ Most difficult situations will resolve themselves if you are persistent and if you don’t give up entirely.” “ สถานการณ์ที่ยากลำบากส่วนมากจะผ่านไปได้เองถ้าคุณอดทนและไม่ยอมแพ้.”   2.จุดตกต่ำไม่ใช่ที่สิ้นสุด “Remember that just because you hit bottom […]

“ความสำเร็จ” กว่าจะเป็นผู้พันแซนเดอร์ส ผู้สร้างตำนานไก่ทอด KFC

ผู้พันแซนเดอร์ส เจ้าของตำนานไก่ทอด KFC ความสำเร็จ ของผู้พันแซนเดอร์ส ที่เราทุกคนคงได้เคยอุดหนุนมาค่อนข้างช้านาน โดยเขาเริ่มทำ KFC เมื่ออายุ 65 และกว่าจะเห็นเงินหลักล้านก็อายุ 74 เข้าไปแล้ว เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญหลัก ๆ กว่าที่จะเป็นผู้พันแซนเดอร์ส ผู้สร้างตำนานไก่ทอด KFC “Everyone’s path takes different amount of time” ทางเดินของทุกคนใช้เวลาต่างกัน  ภาพที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ คือ เรียนจบเมื่ออายุ 20 ต้น ๆ ทำงานจนถึง 30 ต้น ๆ แล้วเริ่มสร้างครอบครัวมีลูก มีรถ มีบ้าน ประสบความสำเร็จ มีทุกอย่างในชีวิต เมื่ออายุ 40 หรือ 50 เพื่อที่จะได้เกษียณ อายุ ในวัย 60 ปี จงจำไว้ว่าเวลาของทุกคนนั้นต่างกัน บางคนเรียนจบเร็วแต่กลับหางานได้ช้า บางคนเรียนไม่จบหางานไม่ได้ แต่กลับทำธุรกิจสำเร็จ “จงอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ กับ […]

บทเรียนสุดล้ำค่าจากชายผู้ไม่มีเงินล้านสู่ผู้มีเงินนับพันล้าน Warren Buffett

ไม่ได้เกิดมาร่ำรวยแต่ก็สามารถร่ำรวยมั่งคั่งได้ และนี่ไม่ใช่เพียงประโยคขายฟังลอยๆ ที่ไม่มีตัวอย่างของผู้ที่ทำได้จริง ในชีวิตจริงมีผู้ประสบความสำเร็จมากมายที่เริ่มต้นจาก 0 ไม่มีต้นทุน ไม่ได้ร่ำรวย แต่พวกเขาก็สามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ หนึ่งในนั้นคือ วอร์เรน บัพเฟตต์ ( Warren Buffett ) อ่านบทเรียนสุดล้ำค่าจากชายผู้ไม่มีเงินล้านสู่ผู้มีเงินนับพันล้าน ในบทความนี้คุณจะได้อ่านบทเรียนสุดล้ำค่าอย่าง มีเป้าหมายอันแน่วแน่ ความสม่ำเสมอและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ เก็บเงินก่อน ใช้ทีหลัง รักในสิ่งที่ทำ ทำงานในสิ่งที่รัก ตัดสินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเอง มีเป้าหมายอันแน่วแน่ ถ้าไม่มีจุดเส้นชัย ไม่มีจุดมุ่งหมาย ต่อให้วิ่งอย่างรวดเร็วเพียงใด ต่อให้พยายามเพียงใด ถ้าปราศจากสิ่งที่ต้องการ เป้าหมายอันแน่วแน่ย่อมจะไม่สามารถหาทางไปสู่สิ่งที่ต้องการได้อย่างแน่นอน วอร์เรน บัพเฟตต์ นั้นมีลักษณะนิสัยในการตั้งเป้าหมายอันแน่วแน่มาตั้งแต่ในวัยเด็ก ในขณะที่ตามประสาเด็กทั่วไป เด็กส่วนมากนั้นยังคนวิ่งเล่นสนุกสนาน ชื่นชอบเพ้อฝันถึงอนาคตแฟนตาซี สังสรรค์พูดเล่นไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ แต่ วอร์เรน นั้นไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นเลย ตั้งแต่วัย 7 ขวบ วอร์เรน ได้เริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องการลงทุน ธุรกิจและการงานโดยเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือที่เขาอ่านในห้องสมุด หนังสือ One Thousand Ways to Make $1000 หลังจากนั้นเขาก็แน่วแน่ในการที่จะเป็นผู้ประกอบการสร้างธุรกิจและร่ำรวยให้จงได้ […]

ความล้มเหลว ไม่ใช่จุดสิ้นสุด และความล้มเหลวจำเป็นต่อการประสบความสำเร็จ

หนึ่งสิ่งที่เป็นความกลัวยอดนิยมสำหรับใครหลายๆ คน นั้นก็คือ ความกลัวที่จะล้มเหลว กลัวความผิดพลาด กลัวจะไม่ประสบความสำเร็จ และมักจะหาทางหลากหลายทางที่จะหลีกเลี่ยงความล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ,การอยู่ใน Comfortzone ของตนเอง และการไม่กล้าเสี่ยง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามที่ใช้เพื่อหลีกหนีความล้มเหลว ความผิดพลาด ก็ตาม ควรเลิกทำมันเสียดีกว่า เพราะความล้มเหลว ไม่ใช่จุดสิ้นสุด และความล้มเหลวจำเป็นต่อการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มาอ่านกันว่า ความล้มเหลวมันจำเป็นขนาดไหนกัน และทำไมมันถึงจำเป็นต่อการประสบความสำเร็จ เมื่อมีบาดแผลจึงรู้จักระวังเป็นพิเศษ เมื่อผิดพลาดจึงได้เรียนรู้ เมื่อล้มเร็ว ล้มบ่อย ก็ลุกขึ้นได้เร็วและเข้มแข็งกว่าเดิม เมื่อปราศจากความล้มเหลวก็จะไม่มีความสำเร็จ ความล้มเหลว ไม่ใช่จุดจบ   เมื่อมีบาดแผลจึงรู้จักระวังเป็นพิเศษ ในวัยเด็ก วัยที่ยังอ่อนต่อโลก พวกเราทุกคนนั้นล้วนเคยต้องได้ลองทำหลากหลายสิ่ง ได้เคยวิ่งเล่นจนหกล้ม ได้เคยถูกน้ำร้อนลวก หรือเคยทำอะไรจนได้บาดแผลตามประสาของการเป็นเด็ก แต่เมื่อมีบาดแผล เมื่อเคยหกล้มจึงระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม, เมื่อถูกน้ำร้อนลวกจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ และเมื่อเคยมีบาดแผลที่จุดใดเป็นพิเศษพวกเราก็จะเรียนรู้ที่จะระมัดระวังมากกว่าเดิม ยิ่งมีบาดแผลยิ่งจะจดจำและระวังตัวไม่ทำตัวให้เป็นแผลอีก เช่นเดียวกับ ความล้มเหลว   “เมื่อคุณเคยล้มเหลวแล้ว คุณจะระมัดระวังตัวและไม่ทำผิดพลาดหรือล้มเหลวอีกเป็นครั้งที่สองได้อย่างแน่นอน.”   เมื่อผิดพลาดจึงได้เรียนรู้ ทุกๆ ความผิดพลาด ทุกๆ ความล้มเหลวล้วนมีบทเรียนให้เรียนรู้อยู่เสมอ นอกจากการที่จะไม่ทำความผิดพลาด ความล้มเหลวเป็นครั้งที่สองแล้ว […]

Elon Musk ชายที่โลกต้องจดจำ

ชื่อ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) คือชื่อของชายหนุ่ม CEO ผู้ประสบความสำเร็จ ผู้มีความคิดก้าวไกลและเชื่อว่า ต้องมีคนเคยได้เห็นชื่อนี่ หรือได้ยินกันมาแบบผ่านๆ แต่ก็ยังไม่รู้จักว่า อีลอน มัสก์ คือใครกันแน่ มาอ่านบทความนี้เพื่อทำความรู้จักกับ อีลอน มัสก์ Elon Musk ชายที่โลกต้องจดจำกันเถอะ ชีวิตช่วงก่อนประสบความสำเร็จ ความสำเร็จครั้งแรกที่นำไปสู่ความสำเร็จอีกขั้น นักอ่านและนักคิดชั้นยอด ชายผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงโลก ชีวิตช่วงก่อนประสบความสำเร็จ ในวัยเด็กของ อีลอน มัสก์ นั้น ตั้งแต่อายุ 7 ขวบเขาก็ได้เริ่มทำการอ่านหนังสือต่างๆ อย่างจริงจังแทบจะวันละ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว เขาเป็นนักอ่านชั้นยอด และหลังจากนั้นในวัยเพียง 10 ปี เขาหลงไหลในคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก และภายในอายุ 12 ปี เขาได้ทำการสอนตัวเอง ศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่การเขียนโปรแกรมจนทำให้เขาสามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนั้นเขาจึงได้สร้างเกมคอมพิวเตอร์ขึ้นมาในชื่อว่า Blaster และขายมันในราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐ เพียงแค่อายุ 12 ปี เขาได้สามารถเขียนโปรแกรมและเขียนเกมขายได้แล้ว   […]

หากรักลูกอย่ามอบมรดกเป็นทรัพย์สินเงินทองให้แก่ลูก

ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงครับ … คุณพ่อของเพื่อนคนนี้เป็นคนมั่งมีพอสมควร เอาเป็นว่าวันนึงถ้าพ่อเขาตายไป เขาคงได้มีเงินใช้ในหลักสิบล้านบาทเลยทีเดียว … แล้วยังไง … สิ่งที่เกิดขึ้นคือเพื่อนผมคนนี้มันไม่เอาอะไรเลย ไม่ทำงาน เรียนให้จบๆ ไป ติดเหล้า ติดการพนัน ติดยา และโดนผู้หญิงหลอกอยู่เสมอ   … ถึงวันที่พ่อเขาจากไปจริงๆ คิดว่าเงินหลักสิบล้านจะช่วยปกป้องชีวิตเขาให้พ้นจากความยากจนได้มั้ยครับ … ทุกคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมเห็นคนมากมายหลายประเภท ชีวิตคนบางคนเป็นดั่งเทพนิยาย อายุ 30 ยังเป็นเพียงคุณครูจนๆ แต่พอ 40 กลับกลายเป็น CEO ของบริษัทระดับโลก ก็มีให้เห็นอยู่ ในเมื่อชีวิตคนมีขึ้นได้ … ชีวิตคนก็ย่อมมีลงได้เช่นกัน ผมเห็นคนที่มีสมบัติมากมาย พวกเขาร่ำรวยมาจากได้รับมรดกแต่เพียงไม่กี่ปีสมบัติทั้งหมดก็หมดไป เพราะ ไม่มีความสามารถในการรักษามันไว้ได้ ขณะชีวิตของเพื่อนผมกำลังก้าวสู่จุดต่ำสุดไปอย่างช้าๆ พ่อก็ตัดสินใจไม่ยกทรัพย์สมบัติใดๆ ให้เพื่อนผมคนนี้ แลกกับการประกันตัวออกมาในข้อหาเสพย์และค้ายาเสพย์ติด ผมไม่ทราบว่าในวันนี้ชีวิตของเพื่อนคนนี้เป็นอย่างไรต่อไป แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ “ความรัก” ของพ่อที่มีต่อลูกชาย แรกเริ่มเป็นความรักที่ต้องการให้เขามีชีวิตที่มั่นคงโดยใช้เงินซื้อเอา แต่ละเลยความเป็นไปในความคิดและทัศนคติของผู้เป็นลูก   กลับกลายเป็น”ความมั่นคง”ที่พ่อมอบให้ลูกด้วยความรักนั่นเองที่เป็นตัวทำลายชีวิตของลูก ผมคิดว่าต่อให้เพื่อนผมได้เงินจำนวนนั้นมา ต่อให้เขาเลิกยาได้ มีชีวิตที่ปกติ ไม่ต้องทำงานอีกแล้ว เขาอาจมีชีวิตที่สบาย แต่สิ่งที่เขาจะไม่มีทางได้รับมันเลยคือ “ความภาคภูมิใจ” […]