แบรนด์ไทย ไม่แพ้ ชาติใดในโลก…

ผู้หญิงกับเครื่องสำอางเป็นสิ่งที่คู่กันมานานแสนนานและแน่นอนว่าผู้หญิงไทยส่วนใหญ่เลือกใช้เครื่องสำอางจากต่างประเทศ หรือ ชื่อแบรนด์เป็นภาษาต่างชาติ เพราะสาวไทยมักคิดว่าดีกว่าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยซึ่งความจริงแล้วเครื่องสำอางแบรนด์ไทยหลาย ๆ แบรนด์ก็มีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ของต่างประเทศได้เลย อย่างแบรนด์ “ศรีจันทร์ ” ที่ไม่มีสาวไทยคนไหนไม่รู้จักเรียกได้ว่าต้องเคยสัมผัสหน้าของสาว ๆ มาแล้วเป็นอย่างแน่

 

จดทะเบียนเป็น บริษัท สหโอสถ จำกัด  โดยคุณพงษ์ หาญอุตสาหะ เมื่อ พ.. 2491 นำเข้าและจำหน่ายสารเคมีเกี่ยวกับการผลิตยาและเครื่องสำอาง ในย่านวังบูรพา ต่อมาได้สร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองเป็นเครื่องสำอางสูตรสมุนไพรจีน คิดค้นโดย นพ.เหล็ง ศรีจันทร์ เลยให้ชื่อเรียกขานว่า “ผงหอมศรีจันทร์” หลังจากนั้นไม่นาน คุณพงษ์ ผู้ก่อตั้ง ได้ขอซื้อทั้งสูตรและกิจการมาจาก นพ.เหล็ง ก่อนจะเปลี่ยนชื่อกิจการมาเป็น บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด กระทั่งปัจจุบัน

ด้วยคุณสมบัติที่โดนใจคนไทย ตลอด 70 ปี “ผงหอมศรีจันทร์” จึงเป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงจำนวนมากให้ความไว้วางใจบอกต่อกันรุ่นสู่รุ่น แต่เมื่อมาถึงยุคที่อะไร ๆ ก็ต้อง ดูคูล ดูดี สาว ๆ หลายคนอาจจะรู้สึกเขินอาย ถ้าต้องหยิบตลับเครื่องสำอางของแบรนด์ไทย ที่แพ็กเกจไม่ทันสมัยเอาซะเลยออกมาใช้ในที่สาธารณะ

ทายาทกิจการรุ่นที่ 3 อย่าง คุณรวิศ หาญอุตสาหะ วิศวกรหนุ่มวัยเพียง 20 ปลาย ๆ ดีกรี MBA จากสหรัฐอเมริกา จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำในธนาคารแห่งหนึ่ง ที่กำลังกำลังไปได้สวย เพื่อมาช่วยประคองธุรกิจของครอบครัวที่กำลังถอยหลังเต็มที เพราะยอดขายนับวันมีแต่จะลดลง

 

เมื่อปี 2549 ตอนที่เข้ามารับช่วงบริหารกิจการนั้นบริษัทไม่มีแม้แต่คอมพิวเตอร์สักเครื่องเดียว 2 ปี แรกของการทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เขาใช้เวลาในการจัดระเบียบภายในบริษัท เพื่อให้การควบคุมง่ายขึ้น มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในระบบบัญชี สต๊อกสินค้า โกดัง ฯลฯ ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับทีมงานค่อนข้างมากเลยทีเดียว

เมื่อระบบเอกสารเข้าที่เข้าทาง จึงหันมาจับงานด้านการตลาด ซึ่งในระยะแรกไม่ค่อยมีความเข้าใจมากนัก ต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง จะต้องอาศัยการสร้างแบรนด์และการพัฒนาช่องทางการขาย เพราะมีลูกค้าจำนวนมากต้องการซื้อแต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน ข้อมูลดังกล่าวนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาหันมาพัฒนาช่องทางการขายควบคู่กับการสร้างแบรนด์

การสร้างแบรนด์ในแบบของเขานั้น เริ่มจากการหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง จนได้ข้อสรุป ชื่อของ “ผงหอมศรีจันทร์” นั้น ยังได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพ ฉะนั้น จึงควรมีการพัฒนาต่อยอดโดยไม่ทิ้งรากฐานเดิม เพื่อให้สินค้ามีความทันสมัยมากขึ้น จึงทำการปรับภาพลักษณ์ โดยเพิ่มชนิดของบรรจุภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย จากแบบตลับดั้งเดิมมาเป็นแบบกระป๋องพลาสติกพกพาและแบบซองขนาดเล็ก

 

จากนั้นทำการรีแบรนด์ โดยยังยึดจุดแข็งของแบรนด์เดิมคือเรื่องของคุณภาพ แต่ปรับปรุงดีไซน์ใหม่ให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่ยังคงใช้แบรนด์ ศรีจันทร์ เพราะเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ ซึ่งมีหลายคนถามไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อเหรอ แต่ คุณรวิศ มีความเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนชื่อเท่ากับทิ้งตัวตนของเราไป

 

การสร้างสินค้าแบรนด์ไทยให้คนไทยภูมิใจที่จะใช้ ถ้าคนชาติเดียวกันยังไม่ยอมใช้ ไม่ต้องไปพูดถึงการส่งออก การสร้างแบรนด์แบบอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ยอมลงทุนในวันนี้เพื่อสร้างของที่ดีในอนาคต เชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญ และถ้าวันหนึ่งสามารถทำให้ คำว่า ศรีจันทร์ มันเท่ขึ้นมาได้ สินค้าจะอยู่ตลอดไป

มื่อสร้างความ “แข็งแกร่ง” ในทุกด้านแล้ว คุณรวิศ จึงนำสินค้าแบรนด์อายุเก่าแก่แต่ลุกส์ทันสมัย เดินเข้าสู่เชลฟ์ในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-ELEVEN ได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยยอดขายสัปดาห์ละ 40 SKU ไม่เคยตก และขยายเข้าไปสู่โมเดิร์นเทรดอื่น ๆ ต่อไป

ปัจจุบันมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า จากวันแรกที่ คุณรวิศ ทายาทรุ่นที่ 3 เข้ามารับช่วงต่อ และยังมีเป้าหมายใหญ่ต้องการพลิกธุรกิจครอบครัวให้เป็นธุรกิจมืออาชีพ โดยมุ่งมั่นจะพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ภายในปี 2563

 

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn