ในปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ วัน จนเต็มตลาดไปหมด ทำให้หลายธุรกิจล้วนพยายามหาสิ่งใหม่ ๆ และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ “ความแตกต่าง” ให้กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อความโดดเด่นจากคนอื่น หรือเป็นจุดขายให้กับตัวเอง ซึ่งความแตกต่างนั้นนี้ก็มีเยอะแยะมากมายเพียงแต่ขึ้นอยู่กับเจ้าของธุรกิจว่าหาความแตกต่างในธุรกิจของตัวเองเจอหรือเปล่า วันนี้เรามี 9 ไอเดียที่น่าจะเป็น “ความแตกต่าง” ให้กับแต่ละธุรกิจได้ลองเอาไปปรับใช้ให้กับธุรกิจของตัวเอง ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย…
1. ราคา
แน่นอนเลยว่า ราคา เป็นอย่างแรกที่หลายคนต้องนึกถึงเป็นอย่างเเรก การตั้งราคาต่างจากคู่แข่งนั้นไม่ว่าจะถูกกว่า หรือแพงกว่า เราต้องมั่นใจว่ามีข้อดี–ข้อเสียกันคนละแบบ เพราะไม่ใช่ว่าของถูกกว่าแล้วจะดีกว่าแล้วของที่แพงกว่าเสมอไป อย่างไรเเล้วควรตั้งราคาให้เหมาะสม
2. ความสะดวกในการใช้บริการหรือซื้อ
ลองคิดว่าเป็นตัวเราเวลาที่จะซื้อสินค้าอะไรสักชิ้นบางร้านอาจจะมีขั้นตอนการสั่งซื้อที่ต้องกรอกข้อมูลนูนนี่นั่นเต็มไปหมดแต่บางร้านแทบไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเลยนี่ยังไม่รวมกับช่องทางการจัดจำหน่ายที่บางธุรกิจมีข้อจำกัดเยอะในขณะที่อีกร้านใช้งานง่ายและสะดวกกว่าถ้าเป็นเราก็ต้องเลือกร้านที่สะดวกสบายหรือร้านที่ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายจริงไหม
3. คุณภาพสินค้าหรือบริการ
คุณภาพสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่าง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถมองข้ามในเรื่องของความสะดวกไปได้บ้าง เพราะลูกค้าหลายกลุ่มก็ยอมที่จะจ่ายแพงกว่า หรือยอมที่จะยุ่งยากกว่าเดิมถ้าได้ของที่ “ดีกว่า” นั่นเอง
4. มีของพร้อมส่ง
บางร้านขายของดีมาก ๆ แต่ของขาดตลาดตลอด ต้องจอง ต้องรอ ต้องต่อคิวนาน ๆ เป็นเหตุให้บางธุรกิจใช้โอกาสนี้ในการชูจุดต่างว่าร้านของเขามีของตลอด หรือถ้าเป็นร้านขายของก็ประเภทเปิด 24 ชม. อะไรประมาณนั้น เเละอาจจะทำให้เราเสียลูกค้าได้
5. ความน่าเชื่อถือ
ธุรกิจบางธุรกิจอาจจะทำสินค้าที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่สิ่งที่จะทำให้ผู้ซื้อเห็นหรือรู้สึกถึงความต่างก็คือความน่าเชื่อถือของผู้ขาย รวมไปถึงองค์ประกอบสินค้า เช่นผลิตมาจากประเทศอะไร บางที่ผลิตจากจีน บางที่ผลิตจากญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งก็มีผลต่อความคิดของผู้ซื้อเหมือนกัน
6. ความสม่ำเสมอ
อย่างการอัพเดทสินค้าใหม่ ๆ การบริการใหม่ ๆ หรือถ้าเป็นสายคอนเทนต์ก็ เช่น อัพเดทคอนเทนต์อยู่เรื่อย ๆ เพราะคู่แข่งอาจจะแข็งแรงในฐานสินค้าเดิมแต่ขาดความแปลกใหม่ นอกจากนี้แล้วความสม่ำเสมอยังสามารถใช้ได้กับกรณีบริการที่เรียกว่าคงมาตรฐานไว้ เป็นต้น
7. ความปลอดภัย
บางธุรกิจความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งที่สามารถสร้าง “ความแตกต่าง” ได้ไม่น้อย อย่างเช่น สินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ เรื่องความปลอดภัยจึงกลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญมากๆ
8. ระยะเวลา
ระยะเวลาการรอสินค้า ระยะเวลาในการใช้บริการ ระยะเวลาในการให้คำตอบเวลามีคำถาม ล้วนเกี่ยวกับ “เวลา” สำหรับลูกค้าหลาย ๆ คนที่ต้องการความเร่งด่วนในการใช้สินค้านั้น ๆ อย่างกระทันหันและยินดีจ่ายมากขึ้นถ้าใครสามารถส่งได้เร็วขึ้น ดังนั้นเวลาจึงเป็นอีกหนึ่งจุดขายหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
9. มีคุณธรรม
อาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่รู้ไหมว่าการทำธุรกิจ “สีเขียว” หรือการมีคุณธรรมก็เป็นจุดขายสำหรับคนบางกลุ่มอยู่เหมือนกัน ลองคิดกันง่าย ๆ ว่าช่วงหนึ่งเราก็แบนสินค้าด้วยผลทางด้านการเมือง หรือจริยธรรมของเจ้าของกันเลย ฉะนั้นแล้วนี่ก็เป็นจุดต่างอีกจุดที่หยิบมาใช้ได้เช่นกัน