ว่ากันว่า รอบยิ้มคือที่มาของความสุข ? ลองมองไปรอบตัวเวลาที่เรายิ้ม คนรอบข้างเรามักจะยิ้มและมีความสุขไปพร้อมกับเรา แล้ววันนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ? มีความสุข เศร้า หงุดหงิด เหงา อารมณ์ต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบต่อคนเราได้ทุกนาที เมื่อเรารู้สึกเครียดกับการทำงาน ที่ทำงานก็อาจจะทำให้มีแนวโน้มว่าเราจะผิดพลาดได้และจากนั้นอาจทำให้เราคิดอะไรไม่ออก เมื่อเราหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผลและเมื่อเราโกรธใครสักคนก็อาจจะทำไม่ดีต่อคนอื่น หรือหยาบคาบใส่ ดังนั้นอย่าปล่อยให้อารมณ์ทำลายสิ่งดี ๆ สังเกตุไหมว่าเวลาที่เราต้องเสียเงินโดยไม่ใช่เหตุ มักทำให้เราอารมณ์เสีย ซึ่งอารมณ์นั้นมีส่วนสัมพันธ์กับการใช้จ่ายเงิน คนเรามักจะให้ความสำคัญกับเงินเป็นอย่างมาก เมื่อมีเงินน้อยคนเรามักจะปรับเปลี่ยนวิธีใช้จ่ายให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับอารมณ์คุณควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองและยอมรับว่าทำไมเราต้องรู้สึกแบบนั้นเพื่อปรับตัวและจัดการกับอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม 3 ปัจจัยที่ทำให้อารมณ์ดีได้ทุกวัน 1.อารมณ์โดยทั่วไปในวันนั้น 2.เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน 3.ความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของคุณกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสามารถสังเกตตัวเราเองได้ว่าอารมณ์ของตัวเองผันผวนและแตกต่างกันในระหว่างวัน นั่นเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่สำคัญเราเป็นแค่มนุษย์ปุถุชนซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาการควบคุมเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ ดังนั้นเราควนทำความเข้าใจให้ดีก่อนและอย่าลืมว่าไม่มีใครหรอกที่สามารถทำอารมณ์ให้ดีได้ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลนี้เราไม่ควรกดดันตัวเอง หลังจากที่เริ่มจดบันทึกอารมณ์ของตัวเองและเหตุการณ์ต่าง ๆ เราก็จะเริ่มสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเหล่านั้น เราจะเข้าใจว่าสิ่งใดทำให้คุณมีความสุข วิตกกังวล หรือเศร้า เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน เราสามารถใช้แอปพลิเคชัน Daylio เพื่อช่วยทำให้เรามองเห็นความสัมพันธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้สภาพอากาศที่เลวร้ายจะทำให้คุณรู้สึกเศร้าและปัจจุบันคุณก็ยังรู้สึกเศร้าอยู่ แต่อย่างน้อยคุณก็รู้แล้วว่าจะทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้นได้อย่างไร […]
การรีวิวสินค้าในปัจจุบันถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากเพราะการรีวิวเปรียบเสมือน การบอกต่อแบบปากต่อปากหรือเป็นการแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงที่เราเรียกกันว่า บล็อกเกอร์ บล็อกเกอร์ก็จะคอยให้รายละเอียดสินค้าทั้งยังอธิบายความสามารถรู้สึกที่ได้รับจากสินค้าอย่างชัดเจน บล็อกเกอร์จะมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้สินค้าอย่างมาก ดังนั้นการรีวิวสินค้าจึงต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมเพื่อก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ แต่บล็อกเกอร์เขาจะมีเทคนิคอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลย เทคนิคในการรีวิวมีอะไรบ้าง? สร้างความน่าเชื่อถือ การตรวจสอบสินค้าที่น่าเชื่อถือจากการตรวจสอบจากลูกค้าจริง ๆ หรือผู้ใช้จริงแต่หากต้องทำรีวิวยาว ๆ แบบบทความผู้ประกอบการต้องใช้ความพยายามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้พยายามใช้คำที่ดูเป็นธรรมชาติ และทางร้านก็อาจจะมีการแจกของให้กับลูกค้าของเราได้ ให้รายละเอียดของสินค้าแบบไม่ขายของ ส่วนของการใส่รายละเอียดสินค้าควรพูดไปตามจริงว่าสินค้าที่ได้รับนั้นเป็นอย่างไร มีลักษณะแบบไหน เปลี่ยนจากการพูดถึงข้อดีของสินค้าเป็นการเกริ่นก่อนว่าสินค้านี้เขาว่ากันว่าดีอย่างไรบ้างเพื่อจะได้ไม่เป็นการอวยสินค้ามากเกินไปให้รีวิวในส่วนของการทดลองใช้ก่อนแล้วค่อยใส่ความรู้สึกของตัวเองหลังจากทดลองใช้เเล้วภายหลัง ใส่ความรู้สึกตามจริง การรีวิวสินค้าบางครั้งอาจโกหกไม่ได้หรือไม่ควรโกหก เพราะผู้บริโภคเดี๋ยวนี้ฉลาดมากกว่าที่พ่อค้าแม่ค้าคิดนะจ๊ะ รวมไปถึงการใช้หน้าม้านั้นมีเยอะมาก ลูกค้าจะแทบไม่เชื่อการรีวิวที่โกหกเลย จึงแนะนำว่าให้ใส่ความรู้สึกตามจริงลงไป แต่แน่นอนว่าการให้ความรู้สึกในแง่ลบย่อมไม่เป็นผลดี ดังนั้นควรใส่ความรู้สึกเชิงบวกที่สินค้านั้นให้จริง ๆ ส่วนความรู้สึกเชิงลบอาจละเว้นไว้ในบางกรณี การเลือกสินค้ามารีวิว การเลือกสินค้ามารีวิว ให้คิดไว้เสมอว่าก่อนที่จะแนะนำคนอื่นได้นั้นตัวเราเองจะต้องเป็นคนที่รู้จักสินค้าตัวนั้นดีเสียก่อน ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดไหนผู้รีวิวจะต้องทำความรู้จักกับสินค้าทุกซอกทุกมุม รู้ถึงข้อดีข้อด้อย ส่วนประกอบต่าง ๆ สิ่งที่จะได้จากสินค้าตัวนั้นจริง ๆ เพราะการรีวิวแบบตรงไปตรงมาจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวผู้รีวิวเอง ถ้าคำนึงถึงความถูกต้อง ซื้อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองและลูกค้า ตามความเป็นจริง ต่อไปคุณจะรีวิวสินค้าชนิดใดก็ได้ เพราะนี่คือจุดแข็งของการรีวิวที่มีประสิทธิภาพ หากพิจารณาสินค้าที่ควรจะนำมารีวิวมีดังนี้ เลือกกลุ่มสินค้า ประเภทสินค้าที่ตนเองเชี่ยวชาญ ก่อนการจำแนกประเภทสินค้าจะช่วยให้การเก็บข้อมูลเข้าใจง่ายขึ้น ทำความเข้าใจ และให้เริ่มจากสินค้าที่ตัวเองนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีก่อน จะทำให้การรีวิว เลือกกลุ่มเป้าหมาย คือเลือกกลุ่มลูกค้าที่สอดคล้องกับการรีวิว เพื่อที่เราจะได้กำหนดกลุ่มของสินค้า ราคาสินค้า […]
หลาย ๆ คน คงแปลกใจและสงสัยว่าร้านขายเครื่องสำอางก็มีอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่ทำไมร้าน EVEANDBOY ถึงมีคนเยอะตลอดเวลาไม่ว่าจะสาขาไหนก็ขายดีคนเข้าไม่เคยขาดสายและล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่สยามสแควร์วันซึ่งพื้นที่ใหญ่มาก ๆ แต่คนก็ยังเต็มร้าน EVEANDBOY ก่อตั้งโดยคุณ หิรัญ ตันมิตร ตอนนี้เขามีอายุแค่ 33 ปี ซึ่งจุดเริ่มต้น EVEANDBOY คือ ธุรกิจโชว์ห่วยซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวที่จำหน่ายสินค้าตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคจนถึงคอสเมติก ในช่วงที่พี่สาวเรียนจบมหาวิทยาลัย จึงได้ขอตึกแถวของครอบครัวที่ว่างอยู่เปิดช็อปจำหน่ายคอสเมติกโดยใช้ชื่อ EVEANDBOY จำหน่ายคอสเมติกมัลติแบรนด์ ที่ได้แนวคิดมาจาก การเดินทางไปต่างประเทศเห็นร้านสไตล์คอสเมติกมัลติแบรนด์ได้รับความนิยมในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งยุโรป และเอเชีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีมีร้านรูปแบบนี้หมด มองว่าเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมซื้อสินค้าจากร้านสไตล์นี้ ไม่ต้องเสียเวลาคอนเซาส์กับบีเอตามเคาน์เตอร์แบรนด์ห้างสรรพสินค้า แต่อาจจะเลือกสินค้าเอง หยิบเอง และชื่อ EVEANDBOY เป็นชื่อเล่นของพี่สาวและเขา สาขาแรกอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม สาขาที่สองอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ในเวลาหลังจากนั้นอีก 2 ปี และเริ่มมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับ EVEANDBOY จึงเปิดสาขาใหม่ที่สยามสแควร์เพราะตอนเรียนที่ธรรมศาสตร์จะคุ้นเคยกับการเดินสยามสแควร์ เห็นสยามเป็นแหล่งวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เปิดรับอะไรใหม่ ๆ ง่าย และเชื่อว่าจะเปิดรับร้านสไตล์ EVEANDBOY ได้มากกว่าพื้นที่อื่น ๆ จึงเลือกสยามเป็นที่แรกในการขยายสาขาสู่กรุงเทพ ได้เข้าไปคุยกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่สยามสแควร์ ขอเช่าพื้นที่ แต่ในช่วงเวลานั้นพื้นที่ 3 ห้องในสยามสแควร์ซอย 1 ว่างอยู่พอดีทางจุฬาฯ จึงได้เสนอพื้นที่นี้ให้ และถือเป็นจุดเริ่มต้น EVEANDBOY สยามสแควร์ในกันยายน 2555 ตอนนั้นบอกกับจุฬาฯ ว่าเท่าทุนก็ทำ อาจเพราะเป็นช่วงที่เป็นวัยรุ่น พร้อมจะเติบโต จุฬาฯ ให้เวลา 7 วันตัดสินใจเช่าพื้นที่สยามสแควร์ซอย 1 แต่ในตอนนั้นตัดสินใจที่จะทำ […]