การจะเป็นของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติส่วนบุคคลและวิธีดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมีร่วมกัน โดยคุณสมบัติเหล่านี้มีอยู่ทั้งในหลักการก่อตั้งธุรกิจไปจนถึงการปฏิบัติงานในแต่ละวัน รวมถึงการมีเทคนิคหรือข้อคิดดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ วันนี้เรามีข้อคิดที่เจ้าของธุรกิจต้องกล้าที่จะลองทำข้อคิดนี้อาจจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้น 1. คุณควรยอมรับว่าตัวเองไม่เก่งเก่งสู้พนักงานของคุณไม่ได้ แต่คุณต้องรู้ว่าใครเก่ง 2. คุณควรยอมรับว่าลูกน้องดีกว่าปล่อยให้เงินก้อนและเงินก้อนให้กับตัวเองเพราะคุณเป็นคนเล่นเก่งกว่าที่คุณทำงานแต่ยากที่จะทำลายตัวเองพนักงานที่เก่งจะเถียงคุณเก่งมาก ไง 3. เมื่อคุณทำผิดประกาศอย่างเปิดเผยว่าทำผิดให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วยและแสดงให้พนักงานเห็นว่าคุณเป็นคนธรรมดาที่ทำผิดพลาดได้พนักงานทำผิดก็จะกล้าบอกให้ทีมงานเรียนรู้และจะได้รับ ไม่ทำผิดซ้ำ 4. ไม่ทำตัวเป็นเทวดาชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการรับโบนัสตามที่ตัวเองต้องทำชัดเจนได้รับการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วนได้รับการประกาศให้ทราบแล้ว 5. ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำของพนักงานขับรถที่ต้องใช้ความสะอาดเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับการทดลองตั้งแต่วันแรก 6. ส่งเสริมพนักงานที่เป็นคนดีที่รักลูกโซ่เรียนรู้มากมายหรือดูงานที่เมืองนอกเป็นวิธีที่จะทำให้องค์กรเติบโตขึ้นเมื่อมีคนเก่ง ๆ ในองกรค์ 7. ถ้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพนักงานหรือรับพนักงานใหม่เพราะการรับพนักงานใหม่นั้นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้งาน 8. กระบวนการและเอกสารที่มากมายใน บริษัท เกิดจากที่คุณไม่ได้รับความไว้วางใจพนักงานจำนวนมากได้รับเอกสารจำนวนมากมาแล้วไม่ต้องใจร้อนโครงสร้างที่ให้เค้าเป็นหัวหน้างานและกฎระเบียบที่มีมากมายบางคนทำไม่ได้ กฎระเบียบที่ทำให้คนดีทำงานได้ยากขึ้นเช่นมีคนขโมยกลับบ้านก็จะออกกฎหรือหาวิธีที่จะใช้งานได้ดีขึ้น
สถิติน่าสนใจจากผลประกอบการไตรมาส 4 ของ Twitter พบว่ารายได้รวมสูงขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจโฆษณาที่มากขึ้นชัดเจน ทั้งหมดนี้สวนทางกับฐานผู้ใช้รายเดือนที่ลดลง 6 สถิติจากผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของ Twitter ได้แก่: – รายรับรวม Twitter ตลอดช่วงปลายปีคือ 909 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน – รายรับจากโฆษณามีมูลค่ารวม 791 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 23% ต่อปี – รายได้เฉพาะในสหรัฐฯ สูงกว่า 506 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 24% ต่อปี – รายรับจากต่างประเทศ อยู่ที่ 403 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 24% ต่อปี – จำนวนผู้ใช้ที่สามารถสร้างรายได้ให้ Twitter เฉลี่ยต่อวัน (mDAU : Average monetizable daily active […]
Hermès ที่สุดแห่งกระเป๋าของผู้หญิงทุกคน จัดว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ Hi-End ที่เลอค่ามาก ต่อให้คุณจะมีเงินก็ใช่ว่าจะได้มาครอบครอง เพราะต้องผ่านการสแกนจากแบรนด์ก่อนว่าเหมาะไหม เรียกได้ว่ามีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ณ จุด ๆ นี้ต้องพกดวงไปด้วยนะจ๊ะ ด้วยความลักซ์ชัวรี่ของแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่าร้อยปี ไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์จะยังได้รับความน่าเชื่อถือและยังเป็นที่ต้องการของเหล่าคนดังและคนมีเงินทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้กันดีก็คือกระเป๋าแบรนด์ดังกล่าวนั้นมีราคาสูงเสียดฟ้าชนิดที่ว่ากระเป๋าบางใบ บางรุ่น มีมูลค่ามากกว่ารถยนต์คันหรูซะอีก แต่ทำไม ? ถึงยังคงขายดิบขายดี จนผลิตแทบจะไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่าเพราะอะไรกระเป๋าสุดหรูราคาโหด ถึงเป็นที่ต้องการขนาดนี้ พร้อมแล้วไปหาคำตอบกันกันเลย คลาสสิกตลอดกาล ปี 1837 เทียร์รี่ แอร์เมส (Thierry Hermès)เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มทำกิจการสตูดิโอ ผลิตอานม้า บนถนน rue Basse du Remparts ในกรุงปารีส ก่อนที่ Louis Vuitton จะก่อตั้งเป็นเวลา 17 ปี Hermès เป็นที่รู้จักในฐานะชนชั้นสูงและเป็นบ้านที่รักอานม้า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดหาอานม้าให้กับจักรพรรดิ นโปเลียนที่ 3 เมื่องานเอ็กซ์โปปี 1867 Hermès นำรองเท้าแตะมาโชว์ ได้รับรางวัลเหรียญเงินทำให้มูลค่าของ Hermès ขึ้นทันที ปี 1879 ชาร์ลส์ เอมิล แอร์เมส (Charles Émile Hermès) ทายาทรุ่น 2 ได้ย้ายสตูดิโอมาอยู่ที่ ถนน Rue du Faubourg Saint-Honore (ที่ตั้งในปัจจุบัน) ซึ่งสร้างเป็นร้านรองเท้าแตะ ทั้งผลิต ขายส่ง ขายปลีก ในอดีตถนนสายนี้เป็นที่อยู่อาศัยของขุนนางชั้นสูง แอร์เมสใช้กลยุทธ์การขายปลีกโดยตั้งร้านในแหล่งที่ขุนนางชั้นสูงอาศัยอยู่ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น อานม้าของ Hermès ได้รับรางวัลเหรียญเงินในงานเอ็กซ์โป 2 ครั้ง ทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร อย่างความเป็นมาของกระเป๋าหนังรุ่น Kelly ก็มีความพิเศษ เพราะกระเป๋ารุ่นนี้ดังเป็นพลุแตกขึ้นมาในปี 1956 เกรซ เคลลี่ หรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโกได้ใช้กระเป๋า Hermès รุ่น Sac à dépêches ซึ่งเป็นชื่อเดิม […]
สรุปพฤติกรรมผู้ใช้ Facebook แชร์ลิงก์มากกว่ารูป Facebook ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคสมัยใหม่ไปแล้ว และยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ของ Social Network สถิติต่าง ๆ ในปี 2018 ข้อมูลที่น่าสนใจจาการวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ Facebook จาก 105 ล้าน คนแชร์ลิงก์มากที่สุด อันแรกคือ Distribution of post types หรือ รูปแบบของโพสต์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ในปี 2018 ที่ผ่านมา รูปแบบโพสต์ที่กินเนื้อหามากกว่าครึ่งของ Facebook เลยก็คือ Link เว็บไซต์ ข่าว หรือบทความต่าง ๆ และสิ่งนี้สร้างปัญหาให้กับ Facebook ไม่น้อยเลย เพราะบรรดาข่าวปลอม Fake News หรือคอนเทนต์หวังผลประโยชน์ ก็รวมอยู่ด้วย ส่วนคอนเทนต์รูปแบบถัดมาที่เป็นที่นิยมก็ยังคงเป็นรูป ตามมาด้วยวิดีโอ และ Status แบบตัวอักษรธรรมดา ๆ นั้นอยู่ที่แค่ 1.8% […]